เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าต่างกับรถน้ำมันยังไง ?

13/03/2024 12:04 น.

เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าต่างกับรถน้ำมันยังไง?

Cr.FreePik

ทุกวันนี้การใช้รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเข้ามามีบทบาทในสังคมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะด้วยการลดมลภาวะ รวมถึงการประหยัดน้ำมัน แต่หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้า มีราคาต่างจากรถยนต์น้ำมันมากน้อยแค่ไหน และมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ไปหาคำตอบกันได้ที่บทความนี้

 

ความแตกต่างของประกันรถยนต์ไฟฟ้าและรถน้ำมัน

ประกันรถยนต์ไฟฟ้า

Cr.FreePik

สำหรับความแตกต่างระหว่างประกันรถยนต์ EV และรถยนต์น้ำมันหลัก ๆ จะมี 3 ปัจจัย ได้แก่ ความคุ้มครอง ทุนประกัน และเบี้ยประกัน ดังนี้

1. ความคุ้มครอง

ประกันรถยนต์ไฟฟ้า  ให้ความคุ้มครองมากกว่าประกันรถยนต์โดยประกันรถยนต์ไฟฟ้านอกจากจะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุแล้ว ยังให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมถึงความเสียหายของสายชาร์จ เครื่องชาร์จ และความเสียหายต่อแบตเตอรี่ที่เกิดจากอุบัติเหตุอีกด้วย

2. ทุนประกัน

อีกหนึ่งจุดเด่นของประกันรถยนต์ไฟฟ้ามีทุนประกันสูงกว่ารถยนต์น้ำมัน เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถที่มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูง รวมทั้งมีชิ้นส่วนอะไหล่ที่มีราคาแพง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทุนประกันของรถยนต์ไฟฟ้าสูงตามไปด้วย เพื่อให้วงเงินสามารถคุ้มครองได้อย่างครอบคลุม

3. เบี้ยประกัน

เนื่องจากความคุ้มครองที่เยอะกว่าและทุนประกันสูงกว่า จึงส่งผลให้เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าราคาคุ้มค่าตามทุนประกัน ทั้งนี้ราคาเบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของรถยนต์ไฟฟ้าด้วย ยิ่งหากเป็นรุ่นแพงเบี้ยประกันก็ราคาสูงตามมาด้วย

 

สาเหตุที่ประกันรถยนต์ไฟฟ้าสูงกว่ารถยนต์น้ำมัน

ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

Cr.FreePik

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมประกันรถยนต์ไฟฟ้าถึงมีราคาสูงกว่าประกันรถน้ำมัน ซึ่ง 3 สาเหตุที่ประกันรถยนต์ไฟฟ้าราคาสูงหลัก ๆ มีดังนี้

1. รถยนต์ไฟฟ้ายังไม่เป็นที่นิยมในไทย

สาเหตุแรก ๆ ที่ประกันรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาสูงกว่ารถยนต์น้ำมัน เนื่องจากในประเทศไทยมีสัดส่วนคนใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ค่อนข้างน้อย โดยข้อมูลตัวเลขการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ในปี 2566 มีดังนี้

  • รถยนต์ไฟฟ้า 100% BEV จำนวน 76,366 คัน
  • รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า BEV จำนวน 21,927 คัน

ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม้ยอดการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในไทยจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในแต่ละปี แต่เมื่อเทียบกับรถยนต์น้ำมันแล้วยังน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เมื่อตัวเลขสถิติไม่มากพอส่งผลให้บริษัทประกัน ไม่สามารถประเมินความเสี่ยงได้แม่นยำ ดังนั้นจึงต้องตั้งราคาเบี้ยประกันที่ค่อนข้างสูงเพื่อบริหารความเสี่ยงต่อทั้งตัวผู้เอาประกันและบริษัท

2. ค่าอะไหล่มีราคาสูง

ด้วยความที่รถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยและมีชิ้นส่วนอะไหล่ที่ต่างจากรถยนต์น้ำมัน ประกอบกับจำนวนศูนย์บริการที่มีไม่มาก ทำให้อะไหล่รถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างหายาก บางชิ้นส่วนอาจต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเสียแต่ละครั้งต้องใช้บริการซ่อมศูนย์เท่านั้น แถมค่าซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าก็มีราคาที่สูงมาก ๆ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาสูงตามมาด้วยนั่นเอง

3. ศูนย์บริการยังมีน้อย

นอกจากอะไหล่รถยนต์ไฟฟ้าที่หายากแล้ว อีกปัจจัยที่ทำให้เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาสูงเป็นเพราะศูนย์ให้บริการรถยนต์ไฟฟ้ายังมีน้อย ทำให้เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ามีปัญหาแต่ละครั้งค่อนข้างเป็นเรื่องยุ่งยากของคนใช้รถ เพราะการเบิกอะไหล่ในการซ่อมแต่ละครั้งต้องใช้เวลานาน รวมทั้งยังต้องซ่อมศูนย์โดยช่างที่เชี่ยวชาญและใช้อะไหล่แท้เท่านั้น

 

สรุป

ถึงแม้ว่าประกันรถยนต์ไฟฟ้า จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ถ้าเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับแล้วถือว่าคุ้มค่า เพราะหากเทียบกับค่าซ่อมชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าแล้วอาจมีราคาสูงกว่ามากกว่า การมีประกันไว้จึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าขับขี่ได้อุ่นใจยิ่งขึ้น ส่วนชาว EV คนไหนที่กำลังมองหาประกันให้รถของคุณ คานะขอแนะนำประกันรถ EV กับ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์  ที่มาพร้อมราคาสุดคุ้ม สามารถแบ่งจ่ายเงินสดได้สูงสุด 6 งวด* ซ่อมศูนย์ และไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก

*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด สำหรับลูกค้าทั่วไปเท่านั้น