7 อะไหล่รถยนต์เปลี่ยนบ่อย ที่คนมีรถควรดูแล

19/06/2023 11:47 น.

รถยนต์ ก็เหมือนกับร่างกายมนุษย์ ที่ภายในรถยนต์หนึ่งคันเต็มไปด้วยชิ้นส่วนอะไหล่ต่าง ๆ มากมายที่ช่วยให้รถยนต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับร่างกายที่มีอวัยวะส่วนต่าง ๆ แต่สำหรับรถยนต์อะไหล่แต่ละชิ้นนั้นมีอายุการใช้งานที่ไม่เท่ากัน บ้างมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน บ้างมีอายุการใช้งานที่สั้น ในวันนี้ คานะ จะมาแนะนำอะไหล่รถยนต์เปลี่ยนบ่อย ที่คนมีรถควรรู้ ว่ามีชิ้นไหนบ้าง เพื่อเป็นความรู้ให้คนใช้รถสามารถนำไปปรับใช้ในการดูแลรถของคุณให้ดีมากยิ่งขึ้น

 

1.น้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่อง
ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/mechanic-pouring-oil-into-car-engine_1005224.htm#query=car%20oil&position=2&from_view=search&track=sph

น้ำมันเครื่องคือหนึ่งในสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์ หากไม่มีน้ำมัน รถก็ไม่สามารถมีพลังงานที่จะทำให้ระบบต่าง ๆ ในรถทำงาน สำหรับการสังเกตน้ำมันเครื่องว่าควรเปลี่ยนเมื่อใดนั้น ให้สังเกตว่าหากน้ำมันเครื่องเริ่มมีสีดำนั่นแสดงว่าน้ำมันเริ่มมีความบกพร่องเสียตามการใช้งานปกติ หากไม่ทำการเปลี่ยน อาจส่งผลให้เครื่องยนต์ของรถมีปัญหา โดยปกติรถยนต์ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ทุก ๆ หลังการขับทุก ๆ 6 เดือน หรือ 5,000 - 15,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน หรือ ขึ้นอยู่ที่ประเภทของน้ำมันเครื่องที่ใช้
 

การดูแลน้ำมันเครื่อง

เนื่องจากน้ำมันเครื่อง เป็นสิ่งที่ต้องเปลี่ยนเมื่อเสื่อมอายุ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเจ้าของรถยนต์ สำหรับรถยนต์ที่ใช้งานน้อยควรดูจากคู่มือรถที่ระบุระยะเวลาที่ควรเปลี่ยนน้ำมันรถ โดยส่วนใหญ่จะมีการกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ 6 เดือน หากเจ้าของรถฝืนใช้งานรถโดยไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่เสื่อมอายุ อาจส่งผลให้เกิดความชื้นภายในเครื่องยนต์ และก่อเกิดสนิม หรือคราบเขม่า
 

2.หลอดไฟต่าง ๆ
ไฟรถยนต์

ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/front-car-lights-night-road_5852194.htm#query=car%20light&position=4&from_view=search&track=sph

 

หลอดไฟต่าง ๆ ของรถยนต์ อาจเป็นส่วนที่เจ้าของรถไม่ได้สังเกตมากนัก เพราะหลอดไฟที่จำเป็นจะอยู่ภายนอกรถ ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า, ไฟเบรค และไฟเลี้ยว ซึ่งหน้าที่ของไฟเหล่านี้ล้วนแต่สำคัญ โดยเฉพาะช่วยลดอุบัติเหตุยามค่ำคืน สำหรับโอกาสที่อะไหล่ส่วนนี้จะเสียมักเกิดจากการใช้งานที่เป็นเวลานาน อาจทำให้หลอดไฟขาด มีแสงสว่างลดลง หรือหากมีการขับรถในบริเวณที่มีถนนขรุขระ เส้นทางที่ไม่เรียบ แรงสะเทือนระหว่างขับขี่อาจทำให้หลอดไฟหลุดจากตำแหน่งได้ ซึ่งการเปลี่ยนหลอดไฟ สามารถทำการเปลี่ยนผ่านศูนย์ซ่อม หรือเปลี่ยนไปด้วยตนเองก็ได้

 

การดูแลหลอดไฟ

อายุการใช้งานหลอดไฟรถยนต์นั้นขึ้นอยู่กับการใช้งานรถยนต์ เนื่องจากหลอดไฟรถนั้นเป็นอะไหล่ที่มีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน แต่หากพบว่าหลอดไฟมีความสว่างลดลงฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ควรเปลี่ยนหลอดไฟเป็นคู่พร้อมกัน เพราะหากเปลี่ยนเฉพาะฝั่งใดฝั่งหนึ่ง อาจทำให้หลอดไฟรถสว่างไม่เท่ากัน นอกจากนี้หนึ่งในวิธีการดูแลหลอดไฟรถยนต์ คือการหมั่นเช็กสภาพรถ เช่น ในตอนที่ตรวจสภาพการใช้งานรถประจำปี เป็นต้น

 

3.แบตเตอรี่

ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/premium-photo/auto-mechanic-worker-checking-changing-car-battery-car-maintenance-auto-service-garage-concept_14953771.htm#query=car%20battery&position=28&from_view=search&track=sph

 

แบตเตอรี่รถยนต์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ แบตเตอรี่แบบแห้ง และแบตเตอรี่แบบเปียก ในส่วนของแบตเตอรี่แบบแห้งนั้น ผู้ใช้แทบไม่ต้องทำการดูแลใด ๆ และสามารถใช้งานจนหมดหมดอายุการใช้งาน แต่สำหรับแบตเตอรี่แบบเปียกนั้นควรจะต้องมีการเต็มน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับให้อยู่ในระดับที่พอดีอยู่สม่ำเสมอเพื่อให้แบตเตอรี่ สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้เต็มที่ ซึ่งอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นั้น จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 - 3 ปี ตามการใช้งานของผู้ใช้

 

การดูแลแบตเตอรี่

วิธีการดูแลให้แบตเตอรี่สามารถมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ครบอายุไข ผู้ใช้สามารถดูแลได้หลายวิธี เช่น การหลีกเลี่ยงการขับระยะสั้น, หมั่นตรวจจุดยึดแบตเตอรี่ว่าอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่ และหมั่นทำความสะอาดแบตเตอรี่บ่อย ๆ ด้วยวิธีเบื้องต้นเหล่านี้ก็สามารถช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ให้อยู่กับรถไปได้ยาว ๆ
 

4.หัวเทียน

ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/premium-photo/automobile-iridium-spark-plugs-holds-by-auto-mechanic-hand-with-engine-compartment-blurred-background-sunlight_31431531.htm#query=car%20spark%20plug&position=18&from_view=keyword

 

หัวเทียนเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ในการจุดระเบิด ทำให้เกิดการเผาไหม้เพื่อดันลูกสูบให้เคลื่อนที่ และยังเป็นส่วนที่สร้างกำลังขับเคลื่อนให้กับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน โดยทั่วไปนั้นหัวเทียนจะเกิดความบกพร่องเสียตามการใช้งานปกติ หลังจากที่ใช้งานมากกว่า 40,000 กิโลเมตรขึ้นไป หากหัวเทียนเกิดอาการความบกพร่อง หรือที่เรียกว่า ‘หัวเทียนบอด’ จะส่งผลให้เครื่องยนต์ของรถมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง และอาจทำให้รถเกิดอาการสะดุดในระหว่างที่ขับรถ

 

การดูแลหัวเทียน

หัวเทียนเป็นอะไหล่ที่เจ้าของรถสามารถทำการดูแลเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ด้วยการหมั่นตรวจสอบสภาพการทำงานของเครื่องยนต์ หากเครื่องเกิดการทำงานสะดุด ให้ทำการถอดหัวเทียนออกมาทำความสะอาด ด้วยการใช้กระดาษทรายละเอียดมาขัดรอบบริเวณ และล้างด้วยน้ำมัน

 

5.ที่ปัดน้ำฝน

ที่ปัดน้ำฝน
ที่มาของรูป: https://freepik.com/free-photo/business-man-is-driving-car-raining-day-with-moving-wiper-blades_3805969.htm#query=car%20rain%20wiper&position=2&from_view=search&track=sph

 

ที่ปัดน้ำฝนเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ในการช่วยดูแลความสะอาดของกระจกหน้ารถจากน้ำ ฝุ่น และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจรบกวนทัศนวิสัยในการขับขี่ อายุการใช้งานของที่ปัดน้ำฝนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 1 ปี แต่ที่ปัดน้ำฝนก็มักถูกหลงลืม และใช้งานจนเกิดความเสียหาย ส่งผลให้เมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ ทำให้ให้กระจกหน้ารถเกิดรอยสกปรก
 

การดูแลที่ปัดน้ำฝน

สาเหตุของความเสียหายของที่ปัดน้ำฝน มักเกิดจากการดูแลที่ผิดวิธีของเจ้าของรถ เช่น การจอดรถตากแดดเป็นเวลานานจนทำให้ยางปัดน้ำฝนเกิดความแข็งกรอบ ไม่ยืดหยุ่น ในกรณีที่เจ้าของรถไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด ก็ควรที่จะทำการหมั่นตรวจเช็กสภาพ ความสะอาดของยางปัดน้ำฝนอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง หากพบว่าที่ปัดน้ำฝนมีการฉีกขาด หรือแข็งกรอบ เจ้าของรถควรเปลี่ยนเป็นที่ปัดน้ำฝนชุดใหม่

 

6.ไส้กรองอากาศ


ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/premium-photo/replacing-air-filter-car-repair_19290788.htm#query=car%20air%20filter&position=9&from_view=search&track=sph

 

เป็นอะไหล่รถยนต์ที่ทำหน้าที่ในการช่วยกรองฝุ่น และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เข้าสู่เครื่องยนต์ ช่วยให้มีอากาศที่สะอาดสำหรับการเผาไหม้ แต่หากใช้งานไปเรื่อย ๆ ไส้กรองอาจถูกฝุ่น หรือสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตัน ส่งผลให้มีอากาศเข้าสู่ตัวเครื่องน้อยลง จนทำให้เกิดปัญหาเร่งเครื่องไม่ขึ้น และทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง โดยปกติเจ้าของรถควรจะต้องเปลี่ยนไส้กรองอากาศหลังจากที่ใช้งานไป 20,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 1 ปี

 

การดูแลไส้กรองอากาศ

การดูแลรักษาไส้กรองอากาศ เจ้าของรถสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ด้วยการหมั่นทำความสะอาดชุดกรองอากาศ หลังจากทุกการขับรถประมาณ 100 ชั่วโมงขึ้นไป หรือทุก ๆ การขับ 500 กิโลเมตรขึ้นไป โดยเจ้าของรถควรทำการแกะไส้กรองอากาศมาเป่าฝุ่นละอองออกจากไส้กรอง ต้องเป่าจากภายในออกสู่ภายนอกเพื่อขจัดสิ่งสกปรกให้หลุดออกไป

 

7.สายพานไทม์มิ่ง


ที่มาของภาพ: https://www.freepik.com/premium-photo/old-cracked-timing-belt-is-broken-old-car-risk-broken-belt-engine-damage-due-delayed-service-vehicle_31312100.htm#query=car%20timing%20belt&position=9&from_view=search&track=sph
 

สายพานไทม์มิ่ง เป็นอะไหล่รถยนต์ที่ทำหน้าที่ในการควบคุมเครื่องยนต์ให้ทำงานได้อย่างราบรื่น มีความสมดุลระหว่างขับขี่ หากสายพานไทม์มิ่งเกิดความเสียหาย อาจส่งผลต่อการทำงานส่วนอื่น ๆ เช่น หัวลูกสูบ หรือวาล์ว โดยส่วนใหญ่สายพานไทม์มิ่ง จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 100,000 กิโลเมตร หรือทุก ๆ 3 ปี หรืออาจนานกว่านั้นเล็กน้อย ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งาน
 

การดูแลสายพานไทม์มิ่ง

เนื่องด้วยสายพานไทม์มิ่ง เป็นอะไหล่รถยนต์ที่จำเป็นต้องเปลี่ยนทันทีเมื่อมีความบกพร่องเสียหาย ดังนั้นการดูแลที่ดีที่สุดคือเจ้าของรถควรหมั่นตรวจสอบสภาพของสายพานเป็นประจำ หลังจากที่มีการขับครบ 80,000 กิโลเมตร เพราะหากฝืนใช้งานสายพานที่เสียหาย อาจส่งผลให้เกิดผลเสียต่อเครื่องยนต์ไปด้วย
 

สรุป

อะไหล่รถยนตฺ์ เป็นสิ่งที่เจ้าของรถควรให้ความสำคัญ เพราะอะไหล่ทุกชิ้นล้วนแต่มีบทบาทหน้าที่ให้การขับขี่รถยนต์เป็นไปอย่างราบรื่น ดังนั้นเจ้าของรถทุกคันสามารถดูแลอะไหล่ง่าย ๆ เริ่มจากหมั่นตรวจเช็กรถเป็นประจำ หรือทำประกันอะไหล่รถยนต์  ที่จะช่วยให้คุณหมดกังวลเรื่องเปลี่ยนอะไหล่บ่อย คานะขอแนะนำ ประกันอะไหล่ เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 6,400 บาท* ผ่อน 0% นาน 6 งวด* 

 

*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด