_Final.jpg)
รถมือสองทำประกันแบบไหนดี ?
23/04/2025 14:20 น.
Cr.Freepik
สำหรับใครที่กำลังมีแพลนอยากซื้อรถ และมองหารถมือสองเป็นตัวเลือกในใจ แต่ยังลังเลหรือสงสัยเกี่ยวกับ ประกันรถมือสอง เพราะไม่ว่ารถยนต์ของเราจะเป็นรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง ก็ควรมีประกันรถยนต์ไว้ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้ผู้ขับขี่อุ่นใจเพื่อช่วยลดความกังวลในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน วันนี้คานะได้รวบรวมปัจจัยต่าง ๆ มาช่วยเพื่อน ๆ ประกอบการตัดสินใจแล้ว
ข้อดีของรถมือสอง
1. ราคา และความคุ้มค่า
ข้อนี้ถือเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อรถมือสองเลยก็ว่าได้ เนื่องจากราคารถมือสองลดลงไปกว่า 30-50% จากราคารถมือหนึ่ง อีกทั้งยังขายต่อขาดทุนน้อยกว่าขายรถมือหนึ่ง ซึ่งถ้าเราซื้อรถมือสองมา แล้วขายต่อเป็นรถมือ 3, 4, 5 ก็จะขาดทุนไม่เยอะเมื่อเทียบกับการขายรถมือหนึ่งเป็นรถมือสอง ยิ่งถ้าเป็นรถตลาดด้วยแล้ว ยิ่งขายได้ในราคาดี ไม่ขาดทุนมากนัก
2. มีตัวเลือก และเข้าถึงรถได้หลากหลายกว่า
ในจำนวนเงินที่เทียบเท่ากัน แต่ได้รถมือสองรุ่นที่ใหญ่กว่า ดีกว่า ฟังก์ชันครบครันกว่า อีกทั้งมีตัวเลือกหลากหลายกว่า มีหลายรุ่น หลายปีให้เลือกสรร และหากเจ้าของเดิมดูแลรถดี จะมีอุปกรณ์เสริมครบครันให้อีกด้วย
Cr.Freepik
ในส่วนของประกันอาจใช้ต่อจากกรมธรรม์รถเดิมได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพูดคุยกับผู้ขาย ซึ่งบางกรณีที่ผู้ขายอาจแจ้งว่าจะแถมประกันให้ แต่ไปยกเลิกสัญญา เพื่อเอาเบี้ยประกันในภายหลัง เป็นอีกจุดที่ควรพูดให้ชัดเจนก่อนตกลงตัดสินใจซื้อ ถึงแม้ว่ารถของเราจะเป็นรถมือสอง แต่การมีประกันรถที่มีความคุ้มครองครอบคลุมไว้นั้น ทำให้อุ่นใจกว่า
ข้อควรตัดสินใจในการตัดสินใจซื้อ ประกันรถมือสอง
การเลือกซื้อประกันรถมือสองควรคำนึงถึง 3 เรื่อง คือ
1. ช่วงอายุของรถ
คนส่วนใหญ่มองว่ารถมือสองจะมีสภาพเก่า แต่จริง ๆ แล้วรถมือสองที่ผ่านการใช้งานเพียง 1-2 ปี รถมือสองสภาพใหม่ หรือรถบ้านที่เน้นจอดเป็นส่วนใหญ่ก็มีเช่นกัน ดังนั้นการจะเลือกซื้อประกันชั้น 1 หรือ 2+ สำหรับรถมือสองควรดูจากช่วงอายุของรถ โดยแบ่งช่วงอายุรถเป็น 3 ขั้น ดังนี้
1.1 รถใหม่ใช้น้อยราวกับมือหนึ่ง หรือรถที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี
สำหรับรถที่เลขไมล์น้อย สภาพดีเหมือนใหม่ หากมีงบมากพอ คานะอยากแนะนำให้ทำประกันชั้น 1 เพื่อคุ้มครองทั้งในกรณีที่มีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณีอย่างการขับรถชนต้นไม้ หรือเฉี่ยวฟุตบาท รวมถึงรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าหากงบไม่ถึง หรือขับไม่บ่อยเน้นจอดเป็นส่วนใหญ่ ประกันชั้น 2+ ถือว่าตอบโจทย์ ถึงแม้ว่าจะไม่คุ้มครองในกรณีที่ไม่มีคู่กรณี แต่ก็ถือว่าคุ้มครองครอบคลุม และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณนึงเลยทีเดียว
1.2 รถที่ผ่านการใช้งานมาบ้าง หรือรถที่มีอายุช่วง 6-10 ปี
สำหรับรถที่ผ่านการใช้งานมาประมาณนึง หลังจากที่ตรวจสอบสภาพ เปลี่ยนอะไหล่ไประดับหนึ่งแล้ว คานะอยากแนะนำให้ทำประกันชั้น 2+ ที่มีความคุ้มครองคล้ายกับประกันชั้น 1 อย่างความคุ้มครองการชนแบบมีคู่กรณี รวมถึงคุ้มครองในกรณีที่รถโดนโจรกรรม และกรณีรถไฟไหม้
1.3 รถเก่า ผ่านการใช้งานสมบุกสมบันมามาก หรือรถที่มีอายุเกิน 10 ปีขึ้นไป
รถที่มีอายุการใช้งานมาค่อนข้างเยอะ ความเสี่ยงในการโดนโจรกรรมน้อยลงซึ่งประกันชั้น 3+ ที่ยังคุ้มครองกรณีชนแบบมีคู่กรณี แต่ไม่ครอบคลุมในกรณีที่โดนโจรกรรม ไฟไหม้ และน้ำท่วม ซึ่งถือว่าประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับประกันชั้น 1 และประกันชั้น 2+ ลงไปเยอะพอสมควร
2. งบประมาณ
งบประมาณถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อประกันรถมือสอง แล้วประกันแต่ละชั้นต่างกันอย่างไร คานะขอสรุปสั้น ๆ ให้เพื่อน ๆ เข้าใจง่าย ๆ ว่า ประกันชั้น 1, 2+, 3+ จะคุ้มครองในกรณีชนแบบมีคู่กรณี แต่ประกันที่ถูกลงมาอย่างประกันชั้น 2 และ 3 จะไม่มีความคุ้มครองในส่วนนี้
3. พฤติกรรมการใช้รถ
สำหรับบ้านไหนที่มีรถหลายคัน รถคันไหนที่ไม่ค่อยได้ใช้เป็นหลัก การเลือกชั้นประกันที่ลดความคุ้มครองลงมา เพื่อลดค่าใช้จ่ายอย่างการเลือกประกันชั้น 2+ หรือ 3+ ที่ยังมีความคุ้มครองในส่วนของการชนแบบมีคู่กรณีอยู่ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
สรุป
ไม่ว่าจะเลือกประกันแบบไหน มีความคุ้มครองอย่างไร อย่าลืมศึกษาข้อควรรู้ก่อนซื้อประกันรถ อีกทั้งคานะอยากให้ทุกคนมีสติในการ ขับขี่อยู่เสมอ ขับขี่อย่างระมัดระวัง เพราะป้องกันไว้ก่อนดีกว่าเสมอ คานะขอแนะนำ ประกันรถผ่อนจ่ายเงินสด 0% สูงสุด 10 งวด ซื้อง่าย ไม่ง้อบัตร