EP01 เคลมได้ป่ะ!? มีอุบัติเหตุ แต่ใบขับขี่หมดอายุ ประกันคุ้มครองหรือไม่

01/09/2022 16:06 น.


 

เมื่อพูดถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนที่ประเทศไทย คาดว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆในทุกๆปี แน่นอนครับว่าเรื่องของความปลอดภัย    เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่รถทุกคนจะต้องให้ความสำคัญ  เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่  และตลอดเวลา ความประมาทของผู้ขับขี่ มักจะเป็นต้นเหตุของความสูญเสียต่อชีวิต  ร่างกาย และทรัพย์สิน  

ดังนั้นเพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ หลายท่านก็คงจะนึกถึงความจำเป็นในเรื่องของการทำประกันภัยรถยนต์ แต่ถึงแม้ว่าเราจะทำประกันภัยรถยนต์ไว้ ก็ใช่ว่าบริษัทประกันภัย จะรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทุกกรณี สิ่งที่ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนต้องให้ความสำคัญก่อนขับขี่รถยนต์ ก็คงเป็นเรื่องของวินัยในการขับขี่รถยนต์ ต้องเคารพกฎจราจร และกฎหมาย  แต่สิ่งที่ผู้ขับขี่รถทุกคนต้องเคารพกฎหมาย นั้นก็คือ ก่อนขับขี่รถยนต์ ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนต้องมีใบอนุญาตขับขี่ และในวันนี้ผมขอพูดถึงเรื่อง “มีอุบัติเหตุ แต่ใบขับขี่หมดอายุ ประกันคุ้มครองหรือไม่”

เราจะเห็นได้ว่า ในเรื่องของใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ มีความสำคัญต่อการประกันภัยรถยนต์เป็นอย่างมาก เพราะมีเงื่อนไขข้อยกเว้นระบุไว้ในกรมธรรม์ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้เงื่อนไขข้อยกเว้นในเรื่องของใบอนุญาตขับขี่รถยนต์จะเป็นเงื่อนไขข้อยกเว้นที่บริษัทประกันภัยสามารถปฎิเสธความรับผิดชอบได้ แต่เราก็ต้องมาดูในรายละเอียด ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นด้วยว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในเงื่อนไขข้อยกเว้นในเรื่องของใบอนุญาตขับขี่รถยนต์หรือไม่                                                                                                          

สำหรับ ประเภทของใบขับขี่  สามารถแบ่งออกได้เป็น  2  ประเภท ดังนี้

 1) ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภท  ส่วนบุคคล 

 2) ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภท  ทุกประเภท (สำหรับขับรถได้ทุก ประเภทการขนส่ง )

1.ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภทส่วนบุคคล คือ การอนุญาตให้สามารถขับขี่เพื่อขนส่งส่วนบุคคล หรือใช้สำหรับโดยสารส่วนตัว โดยสามารถขับขี่ขนส่งเพื่อการค้าหรือธุรกิจส่วนตัวได้  แต่ต้องจำกัดน้ำหนักในการขนส่งอยู่ที่ 1,600 กิโลกรัม และ ต้องใช้สำหรับการขนส่งที่ไม่ใช่การรับจ้าง

2.ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภททุกประเภท  คือ ใบอนุญาตประเภทให้สามารถขับขี่เพื่อขนส่งได้ทุกประเภท ทั้งใช้สำหรับการขับขี่ขนส่งเพื่อการค้า หรือ ธุรกิจส่วนตัว  และใช้ขนส่งเพื่อรับจ้าง หรือประกอบธุรกิจการขนส่งได้  เช่น การขนส่งคน การขนส่งสิ่งของต่างๆ เป็นต้น

หากพิจารณาที่ความแตกต่างของใบขับขี่ทั้ง 2 ประเภท นั่นคือ  ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภทส่วนบุคคล  ไม่สามารถใช้ขับขี่เพื่อการรับจ้างได้  แต่ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภททุกประเภท สามารถใช้ขับขี่เพื่อขนส่งส่วนบุคคลและรับจ้างได้ด้วย

ในเรื่องของใบอนุญาตขับขี่รถ   ทางกรมการขนส่งทางบก   จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติผู้ที่มีสิทธิ์ สอบใบขับขี่ รวมถึงการเพิ่มโรคหรืออาการป่วย ที่ไม่สามารถออกอนุญาตออก ใบขับขี่ ให้ได้

บุคคลต้องห้าม สอบใบขับขี่  บุคคลที่มีลักษณะตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้ถือเป็นบุคคลต้องห้ามไม่สามารถสอบใบขับขี่ได้

1.ผู้ที่อยู่ระหว่างการถูกยึดใบขับขี
2.ผู้ที่ถูกเพิกถอนใบขับขี่ ซึ่งถ้าถูกเพิกถอนใบขับขี่จะสามารถขอสอบใบขับขี่ได้ก็ต่อเมื่อ พ้นกำหนดระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ถูกเพิกถอนใบขับขี่
3.ผู้พิการทางร่างกาย ได้แก่ แขนขาด ขาขาด ตาบอด หูหนวก ลำตัวพิการ
4.ผู้มีความผิดปกติทางจิตหรือความผิดปกติทางประสาท
5.ผู้เป็นโรคติดต่ออันเป็นที่น่ารังเกียจต่อสังคม
6.ผู้ติดสุราหรือผู้ติดยาเสพย์ติดให้โทษ
7.ผู้ที่เคยได้รับการจำคุกจากความผิดที่เกี่ยวกับการใช้รถ ยกเว้นผู้ที่ได้รับโทษฐานกระทำความผิดโดยประมาทและพ้นโทษมาแล้วเกิน 3 ปี
8.ผู้ที่ถูกควบคุมตัวเพราะมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม
9.ผู้ที่ถูกพิพากษาถึงที่สุดหรือถูกเจ้าพนักงานเปรียบเทียบปรับตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป ในความผิดดังต่อไปนี้

9.1 ขับขี่ฝ่าฝืนสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจร
9.2 ขับขี่ขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น
9.3 ขับขี่ในลักษณะกีดขวางการจราจร
9.4 ขับขี่โดยใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
9.5 ขับขี่โดยประมาณหรือน่าหวาดเสียว9.6 ขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น

ที่ผ่านมามี เราคงได้เห็นข่าว   คนขับรถชักเกร็งกะทันหัน  และอาการทางจิตประสาท ทำให้

มีผู้ได้รับอันตรายต่อร่างกาย และทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก

กรมการขนส่งทางบก และแพทยสภา จึงปรับแก้การ ออกใบอนุญาตขับขี่รถ ต้องกรอกประวัติเจ็บป่วย การรักษา และมีผลตรวจของแพทย์ ยืนยัน  จึงได้เพิ่มกลุ่มโรคที่เสี่ยงจะเกิดอันตรายในการขับขี่ ห้ามสอบใบขับขี่ จากเดิม 5 โรค  เพิ่มเข้ามาอีก 5 โรค  รวมเป็น  10 โรค  ดังต่อไปนี้

1. กลุ่มโรคที่เสี่ยงเดิมห้ามผู้ป่วย 5 โรค สอบใบอนุญาตขับขี่ ได้แก่

     1.1  โรคเท้าช้าง
     1.2  โรควัณโรค (ระยะอันตราย)
     1.3  โรคเรื้อน
     1.4  โรคพิษสุราเรื้อรัง
     1.5  โรคติดยาเสพติดให้โทษ

2. กลุ่มโรคที่เสี่ยงใหม่เพิ่มเติม ห้ามผู้ป่วย 5 โรค สอบใบอนุญาตขับขี่ ได้แก่

     2.1  โรคลมชัก
     2.2  โรคเบาหวานร้ายแรง(ในเคสที่ต้องฉีดอินซูลิน)
     2.3  โรคความดันโลหิตสูง
     2.4  ผู้ที่เคยผ่าตัดสมองมาก่อน
     2.5  โรคหัวใจที่เสี่ยงจะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด

ดังนั้นความสำคัญในการขับขี่รถ ผู้ขับขี่รถทุกคนต้องมีใบอนุญาตขับขี่ เพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถ

ใช้ถนน ดังนั้นผู้ที่ทำประกันภัยรถยนต์ จึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องของใบอนุญาตขับขี่ เพราะการประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ ได้มีเงื่อนไขข้อยกเว้นเรื่องของใบอนุญาตขับขี่รถยนต์  หากผู้ขับขี่รถยนต์ขับรถเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันภัยก็สามารถปฎิเสธความรับผิดชอบได้

            แต่การที่ผู้ขับขี่รถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ บริษัทประกันภัยสามารถปฎิเสธความรับผิดชอบได้ทุกกรณีหรือไม่ ผมขออธิบายและทำความเข้าใจข้อยกเว้นของการประกันภัยรถยนต์ ในเรื่องของใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ โดยเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกนภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ ได้กำหนดเงื่อนไขข้อยกเว้นไว้ดังนี้

“การขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับขี่ใดๆ หรือเคยได้รับแต่ถูกตัดสิทธิตามกฎหมาย หรือ

ใช้ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ไปขับรถยนต์”

จากเงื่อนไขข้อยกเว้นดังกล่าว จะเห็นได้ว่า

การขับขี่โดยบุคคลไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับขี่ใดๆ  หมายถึง    บุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับขี่รถยนต์มาเลย หากรถยนต์คันเอาประกันภัยถูกขับขี่โดยบุคคลผู้ไม่มีความสามารถในการขับขี่แล้วโอกาส ที่จะเกิดอุบัติเหตุก็มีมาก ความเสี่ยงภัยในกรณีดังกล่าวสูงขึ้น กรมธรรม์จึงไม่อาจให้ความคุ้มครองได้ จึงระบุ ยกเว้นความรับผิดไว้

ส่วนความหมายของ “ ใบอนุญาตขับขี่ใดๆ” หมายถึง ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ทุกชนิดทุกประเภท และรวมถึง ใบอนุญาตขับขี่ที่ออกโดยรัฐใดรัฐหนึ่ง หรือประเทศใดประเทศหนึ่งด้วย    เนื่องจากเจตนารมณ์ถือ ความสามารถเป็นสําคัญ ฉะนั้น เมื่อมีใบอนุญาตขับรถยนต์ใดๆแล้ว แม้จะใช้ผิดชนิดประเภทของใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ก็ยังคงได้รับความคุ้มครอง เช่น  มีใบอนุญาตขับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไปขับขี่รถบรรทุก หรือไปขับรถรับจ้างสาธารณะ หรือมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ไปขับรถชนิดประเภทใดก็ได้ ในเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ ถือว่ามีใบอนุญาตขับขี่ใดๆมาแล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ยังได้รับความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยครับ

ส่วนกรณีเคยได้รับแต่ถูกตัดสิทธิตามกฎหมาย สำหรับการถูกตัดสิทธิตามกฎหมาย ให้หมายถึง การถูกเพิกถอนตามคำพิพากษาของศาลหรืออาจจะเป็นกรณีถูกลงโทษด้วยการยึดใบอนุญาตขับขี่ การสั่งพักใช้ใบอนุญาต กรณีนี้ผู้ขับขี่ที่ถูกลงโทษดังกล่าว จะต้องไปอบรมหรือสอบเพื่อขอออกใบอนุญาตขับขี่ใหม่หรือไม่ ถ้าไม่ต้องไปอบรมหรือสอบใหม่ ก็ถือว่าใบอนุญาตขับขี่เดิมไม่ได้ถูกตัดสิทธิ เพราะการตัดสิทธิตามกฎหมาย ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์  ภาคสมัครใจ จะต้องถึงขนาดเสมือนถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งจะต้องไปอบรมหรือสอบเพื่อขอออกใบอนุญาตขับขี่ใหม่เท่านั้น

และในกรณี ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่อาจนํามาใช้แทนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ได้ หมายถึง ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ สามารถใช้ขับขี่ได้เฉพาะรถจักรยานยนต์เท่านั้น แต่ในส่วนของใบอนุญาตรถยนต์ สามารถขับรถใดๆก็ได้ จะใช้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ไปขับขี่รถจักรยานยนต์ก็ได้ ผิดกฎหมายแต่ไม่ผิดเงื่อนไขกรมธรรม์ครับ

ดังนั้นเมื่อ “มีอุบัติเหตุ แต่ใบขับขี่หมดอายุ ประกันคุ้มครองหรือไม่” ในเรื่องของใบอนุญาตขับขี่ จะหมดอายุ กี่วัน กี่เดือน กี่ปี บริษัทประกันภัยไม่สามารถปฎิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะใบอนุญาตขับขี่รถยนต์หมดอายุในระหว่างเกิดอุบัติเหตุ ก็ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการขับขี่รถบกพร่องไปด้วย เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้ว ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์แม้จะหมดอายุ บริษัทประกันภัยยังคงต้องรับผิดชอบครับ

และในเรื่องของใบอนุญาตขับขี่ บริษัทประกันภัยจะปฎิเสธความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

ไม่ได้อีกเช่นกัน ถ้าผู้ขับขี่รถในขณะเกิดอุบัติเหตุมิได้เป็นฝ่ายผิด หรือความเสียหายของรถยนต์ มิได้เกิดจากการชน  การคว่ําแล้ว  เช่น ถูกน้ําท่วมเข้ามาทําให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย บริษัทประกันภัย จะนําเงื่อนไขข้อยกเว้นในเรื่องของใบอนุญาตขับขี่มาเป็นเหตุในการปฏิเสธความรับผิดไม่ได้เช่นเดียวกันครับ

            แต่ถึงแม้ในเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ จะปฎิเสธความรับผิดไม่ได้ในเรื่องของใบอนุญาตขับขี่ที่หมดอายุ  แต่ถ้าผู้ขับขี่รถยนต์ในขณะเกิดอุบัติเหตุใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้นะครับ ดังนั้นขอให้ผู้ขับขี่รถยนต์ควรเคารพกฎจราจร และกฎหมายดีกว่านะครับ

พบกับบทความที่มีประโยชน์และสาระความรู้เรื่องของประกันได้ในรายการ เคลมได้ป่ะ!? ที่ช่อง YouTube ของ กรุงศรี ออโต้ นะครับhttps://www.youtube.com/watch?v=mNFbeuGIb4s&list=PLoHwRneB14sgdtabcCV54FeBSmW0T-BHD