ค่าใช้จ่ายบิ๊กไบค์ ที่ไบค์เกอร์ควรรู้

27/01/2023 10:03 น.

หากพูดถึงยานพาหนะที่เป็นกระแสสำหรับคนรุ่นใหม่ในยุคนี้แล้ว แน่นอนว่าคงต้องยกให้ มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ที่มาพร้อมรูปลักษณ์หน้าตาที่ดูเท่ ทันสมัย แถมยังมีสมรรถนะการขับขี่ที่ดีกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป สามารถใช้ขับขี่ในการเดินทางไกล ขึ้น-ลงเขา หรือขับลุยในเส้นทางขรุขระได้ เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่ชอบลุย ชอบการเดินทางท่องเที่ยว

แต่นอกจากความเท่ และทันสมัยแล้ว บิ๊กไบค์ ก็ไม่ต่างจากรถยนต์ ที่เมื่อซื้อมาแล้วจะมีค่าใช้จ่ายที่ตามมาหลายอย่าง วันนี้คานะได้รวบรวมค่าใช้จ่ายบิ๊กไบค์มาให้แล้วว่ามีอะไรบ้าง และแต่ละอย่างนั้นมีราคาเท่าไหร่? เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจสำหรับคนที่มีแพลนจะซื้อบิ๊กไบค์ รวมถึงเป็นข้อมูลให้กับคนที่มีบิ๊กไบค์ ได้ศึกษา ทำความเข้าใจมากขึ้น

1.อุปกรณ์การขับขี่


ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/rider-motorbike-road-riding-having-fun-driving-empty-road_4670726.htm#page=2&query=big%20bike&position=49&from_view=search&track=sph

การมีรถมอเตอร์ไซค์ หนึ่งในสิ่งที่เจ้าของรถทุกคันจำเป็นต้องมีก็คืออุปกรณ์การขับขี่เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากการขี่รถมอเตอร์ไซค์ ก็เหมือนเนื้อหุ้มเหล็ก อีกทั้งอุปกรณ์การขับขี่ของบิ๊กไบค์ ก็มีความต่างจากรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป เพราะบิ๊กไบค์ เป็นรถที่มีความเร็วสูง และมีขนาดที่ใหญ่กว่า ดังนั้นควรใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานดี ช่วยเพิ่มความสะดวกให้คนขับ และป้องกันจากอุบัติเหตุได้ อุปกรณ์การขับขี่สำหรับบิ๊กไบค์ ได้แก่

  • หมวกกันน็อค สำหรับบิ๊กไบค์นั้น จะต้องเป็นหมวกแบบเต็มใบ ที่สามารถป้องกันบริเวณใบหน้า และส่วนศีรษะของคนขับได้อย่างแน่นหนา ควรเป็นหมวกที่ได้มาตรฐาน มอก. ที่ใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน สามารถลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บรุนแรงได้ โดยการเลือกซื้อหมวกกันน็อคควรเลือกร้านที่ให้ทดลองสวมใส่ได้ เพื่อให้ได้หมวกกันน็อคที่พอดีกับศีรษะ ส่วนราคาหมวกกันน็อคของบิ๊กไบค์นั้นก็จะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2,000-30,000 บาท
  • เสื้อการ์ด อุปกรณ์ที่จะทำหน้าที่ในการปกป้องร่างกายของผู้ขับ เสื้อการ์ดบิ๊กไบค์ที่ดีควรกระชับกับร่างกาย สามารถช่วยดูดซับแรงกระแทก และลดการเสียดสีกับท้องถนน ช่วยป้องกันการบาดเจ็บบริเวณข้อศอก ไหล่ แผ่นหลัง และหน้าอก พร้อมทั้งลดความเสียหายต่ออวัยวะภายใน
  • ถุงมือสำหรับการขับขี่ อีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญของเหล่าไบค์เกอร์คือถุงมือ ที่จะช่วยให้การควบคุมรถสะดวก และทำได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากถุงมือจะทำหน้าที่ในการป้องกันมือของคนขับจากแดด และลม นอกจากเพิ่มความสะดวกในการขับขี่แล้ว ถุงมือสำหรับการขับขี่ ยังช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกิดกับนิ้วมือ เช่น ช่วยลดการถลอก หรือนิ้วมือหัก
  • รองเท้า หลายคนอาจคิดว่าการขับบิ๊กไบค์สามารถใส่รองเท้าอะไรก็ได้ แต่แท้จริงแล้วรองเท้าก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญ ที่ช่วยป้องกัน และเพิ่มความสะดวกในการขับขี่เช่นกัน โดยรองเท้าในการขี่บิ๊กไบค์ ควรจะเป็นรองเท้าที่ช่วยป้องกันทั่วทั้งบริเวณเท้าของเรา รวมถึงป้องกันบริเวณหัวเข้า มีสัดส่วนที่กระชับ พอดีกับเท้า ที่ทำให้มั่นใจว่ารองเท้าจะไม่หลุดจากเท้าระหว่างที่ขับขี่

2.ค่าอะไหล่


ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/motorcycle-luxury-items-close-up-headlights-shock-absorber-wheel-wing-toning_6858346.htm#page=2&query=big%20bike&position=15&from_view=search&track=sph

ค่าอะไหล่ คือค่าใช้จ่ายที่มีมาพร้อมกับรถยนต์ทุกประเภท รวมถึงรถบิ๊กไบค์ อะไหล่หลายๆ ส่วนของรถจะต้องมีการเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอเมื่อครบกำหนดอายุการใช้งาน เช่นเดียวกับรถยนต์ทั่วไปที่ต้องมีการเช็ก และเปลี่ยนอะไหล่อยู่เป็นประจำ สำหรับอะไหล่ที่เปลี่ยนบ่อยของรถบิ๊กไบค์ มีดังนี้

- ไส้กรองอากาศ ควรเปลี่ยนทุกครั้งเมื่อวิ่งครบ 1,000 กิโลเมตร

- หัวเทียน ควรเปลี่ยนทุกครั้งเมื่อวิ่งครบ 1,000 กิโลเมตร

- น้ำมันเครื่อง ควรทำการเช็กน้ำมันทุกๆ 100 กิโลเมตร  และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 2,500 กิโลเมตร

- ผ้าเบรกหน้า ควรเปลี่ยนทุกๆ 2 ปี หรือทุก 24,000 กิโลเมตร

- ผ้าเบรกหลัง ควรเปลี่ยนทุกๆ 1 ปี หรือ 12,000 กิโลเมตร

สำหรับราคาอะไหล่รถบิ๊กไบค์นั้น ก็มีตั้งแต่ราคาเริ่มต้นที่หลักพัน หรือบางชิ้นที่ไม่ได้เปลี่ยนบ่อยมากนักก็อาจมีราคาถึงหลักหมื่นกันเลยทีเดียว

3.ค่าบำรุงรักษา


ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/man-fixing-motorcycle-modern-workshop_24904478.htm#page=4&query=motorcycle&position=34&from_view=search&track=sph

อีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อรถทุกชนิดคือ ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง ที่จะต้องทำการเข้าศูนย์เช็กระยะเมื่อครบ 1,000 กิโลเมตรแรก เพื่อเป็นการตรวจสอบสภาพรถ และถ่ายน้ำมันเครื่อง โดยเจ้าของรถจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าน้ำมัน และค่าช่าง ทั้งนี้ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง จะขึ้นอยู่กับแบรนด์ และระดับ CC ของรถ ซึ่งรถบิ๊กไบค์จากแบรนด์ญี่ปุ่นจะมีราคาบำรุงรักษาที่ถูกกว่ารถที่เป็นแบรนด์จากยุโรป โดยราคาบำรุงรักษาจะอยู่ที่ตั้งแต่ 5,000-18,000 บาท

4.ค่าน้ำมัน


ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/man-grabbing-fuel-nozzle-refuel-his-vehicle_18946851.htm#query=gas%20station&position=41&from_view=keyword

ด้วยความที่บิ๊กไบค์เป็นรถระดับ 500-1,000 ที่มีขนาดใหญ่กว่ามอเตอร์ไซค์ปกติ ทำให้มีการเผาไหม้ในระบบเครื่องยนต์มากกว่ามอเตอร์ไซค์ทั่วไป โดยรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์จะมีอัตราการกินน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 15-20 กิโลเมตร การเติมน้ำมันแต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 500-1,000 บาท ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในส่วนของน้ำมันจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับ หากคนขับที่ชอบการบิดรถเพื่อให้ได้ความเร็ว แรง ก็อาจสิ้นเปลืองน้ำมันมากยิ่งขึ้น และมีความอันตรายอีกด้วย

5.ค่าเบี้ยประกัน


ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/happy-young-asian-couple-realtor-agent_3521653.htm

ประกันรถเป็นสิ่งที่รถทุกคันจำเป็นจะต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบิ๊กไบค์ ที่เป็นรถที่มีความเร็ว และมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ ประกันบิ๊กไบค์ จะช่วยดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล, ค่าซ่อมแซมรถยนต์จากอุบัติเหตุ ทั้งของตัวเจ้าของรถ และตัวคู่กรณี ทั้งนี้เงื่อนไขการคุ้มครองก็จะขึ้นอยู่กับชั้นประกันที่เจ้าของรถเลือกไว้ ที่จะให้การดูแลแตกต่างกันไป

ส่วนใครที่กำลังมองหาประกันบิ๊กไบค์ที่ราคาไม่แรงมาก ในวันนี้คานะขอแนะนำโปรโมชันประกัน “กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ บิ๊กไบค์อุ่นใจ จ่ายน้อย” เบี้ยเพียง 8,900 บาท* สามารถแบ่งจ่ายเงินสดได้สูงสุด 6 งวด* สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับคานะ ได้เลยที่ Line OA กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์

*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด