ทำประกันอะไหล่รถยนต์แล้ว ยังจำเป็นต้องเช็กระยะอยู่ไหม ?

30/05/2024 14:21 น.

ทำประกันอะไหล่รถยนต์แล้ว ยังจำเป็นต้องเช็กระยะอยู่ไหม ?

Cr.Freepik

นอกจากการทำประกันอะไหล่รถยนต์  การตรวจเช็กสภาพก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนใช้รถ เพราะเราไม่อาจรู้เลยว่าเครื่องยนต์จะมีความผิดปกติอย่างไร กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็อาจเกิดปัญหาสูญเสียทรัพย์สินบานปลาย ดังนั้นจึงมีคำพูดให้ได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าต้องเอารถไปเช็กตามระยะ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นเมื่ออะไหล่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน ทั้งนี้การตรวจเช็กตามระยะควรทำเมื่อไหร่ และต้องเช็กอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ

 

การเช็กระยะคืออะไร

สำหรับการเช็กระยะรถยนต์ จะเป็นการตรวจเช็กสภาพภายในเครื่องยนต์นอกเหนือไปจากที่เราดูแลกันเป็นประจำอยู่แล้ว โดยจะเป็นการเช็กตามระยะทางเข็มไมล์ เพื่อจะได้รู้ว่าอะไหล่ชิ้นไหนที่เริ่มมีการเสื่อมสภาพ ซึ่งทางศูนย์ก็จะมีคู่มือมาให้อยู่แล้วว่ารถของคุณควรเข้าไปเช็กระยะเมื่อไหร่ ทั้งนี้รถยนต์แต่ละคันก็มีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป บางคนขับบ่อย บางคนจอดทิ้งไว้นาน อะไหล่ก็จะมีการเสื่อมสภาพแตกต่างกัน ดังนั้นนอกจากการทำประกันอะไหล่รถยนต์  ไว้แล้วก็ควรนำเข้าศูนย์เช็กตามระยะที่กำหนดด้วยค่ะ

การเช็กระยะรถยนต์ ควรตรวจเช็กอะไรบ้าง?

Cr.Freepik

การเช็กระยะรถยนต์ ควรตรวจเช็กอะไรบ้าง ?

โดยปกติทางศูนย์จะกำหนดเวลาเช็กระยะไว้ในคู่มือว่าต้องตรวจเช็กอะไรบ้าง แต่สำหรับผู้ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ก่อนนำรถยนต์เข้าศูนย์ คานะลิสต์รายการที่ต้องตรวจเช็กในแต่ละครั้งมาให้แล้วค่ะ

ระยะทาง

รายการตรวจเช็ก

5,000 กิโลเมตร

  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง
  • ระบบจานเบรกและผ้าเบรก
  • ยางรถยนต์และการตั้งศูนย์ล้อ
  • ฝาหม้อน้ำ
  • สายพานขับปั๊ม
  • สายพานแอร์

10,000 กิโลเมตร

  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรอง
  • ระบบเบรก ระบบคลัทช์
  • ที่ปัดน้ำฝน
  • ที่กรองอากาศ
  • ระบบช่วงล่างหน้า-หลัง
  • สลับยาง-ถ่วงล้อ
  • ความสึกของดอกยาง

20,000 กิโลเมตร

  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรอง น้ำมันเกียร์
  • สายหัวเทียน
  • น้ำหล่อเย็น
  • ตัวกรองอากาศ
  • สายพานขับและสายพานเครื่องยนต์
  • เช็กช่วงล่างระบบบังคับเลี้ยว ระบบคันชัก-คันส่ง ลูกหมาก

40,000 กิโลเมตร

  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก น้ำมันคลัทช์ น้ำมันพวงมาลัย น้ำมันเกียร์ออโต้ น้ำมันหล่อเย็นเครื่องยนต์
  • สายพานขับปั๊ม
  • สายพานเกียร์
  • ใบปัดน้ำฝน

60,000 กิโลเมตร

  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง
  • เปลี่ยนสายหัวเทียน
  • เปลี่ยนตัวกรองน้ำมันเชื้อเพลิง
  • ทำความสะอาดคาร์บูเรเตอร์
  • อาจมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ

100,000 กิโลเมตร

  • ยางล้อรถยนต์
  • สายพานไทม์มิ่ง
  • ระบบของเหลวในรถทั้งหมด
  • เช็กสภาพความแข็งแรงรถว่ามีชิ้นส่วนที่แตกหักหรือฉีกขาดหรือไม่

 

ทั้งนี้อะไหล่บางอย่างที่เกิดความเสียหายก็อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยในการขับขี่ ดังนั้นหากคุณรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเครื่องยนต์ เช่น ขับไปแล้วมีเสียงดังแปลก ๆ หรือมีของเหลวรั่วไหลออกมา ก็ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้มีการตรวจสอบจุดที่มีความผิดปกติ ส่วนราคาเช็กระยะรถยนต์จะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 2,500 บาท ไปจนถึง 6,000 บาท ขึ้นอยู่กับศูนย์บริการและระยะเข็มไมล์ โดยทางศูนย์จะมีการประเมินค่าอะไหล่และค่าบริการที่แตกต่างกัน

 

สรุป

ข้อดีของการเช็กระยะอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะทำให้รถสภาพดีอยู่เสมอแล้ว ยังสามารถซ่อมแซมอะไหล่ที่เสียหายได้ทันท่วงที ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อาจบานปลาย และถ้าหากคุณดูแลรถเป็นประจำอยู่แล้วแต่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติม คานะขอแนะนำประกันอะไหล่รถยนต์จาก กรุงศรี ออโต้ โพรเทค  ซึ่งมีให้คุณเลือกทั้งประกันอะไหล่รถยนต์ญี่ปุ่น  และประกันอะไหล่รถยนต์ยุโรป ในราคาสุดคุ้ม สามารถแบ่งจ่ายได้สูงสุด 6 เดือน* ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ ให้คุณหมดกังวล

*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด