Tip & Trick EP.11: คนขับรถยนต์ไฟฟ้าต้องรู้! เช็กก่อนชาร์จปลอดภัยกว่า

17/09/2024 17:11 น.

Cr.FreePik

แม้ว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยประหยัดค่าน้ำมัน ช่วยลดภาวะโลกร้อน ด้วยการเปลี่ยนเป็นการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแทน แต่การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าก็เต็มไปด้วยเงื่อนไขและสิ่งที่คนใช้รถควรรู้ เพราะหากชาร์จโดยไม่ระมัดระวัง ไม่ศึกษาให้ดีก่อนอาจส่งผลให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ เสื่อมเร็วยิ่งขึ้น ในบทความนี้คานะได้รวมเรื่องควรรู้ของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ปลอดภัย จะมีอะไรบ้างไปติดตามอ่านกันได้เลย 

การติดไฟชาร์จที่บ้าน

Cr.FreePik

การติดตั้งเครื่องชาร์จในบ้านคือสิ่งที่คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าทุกบ้านจะต้องมี เพื่อเพิ่มความพร้อม ความสะดวกต่อการชาร์จไฟในแต่ละครั้ง แต่การติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ปลอดภัยได้มาตรฐาน คนใช้รถต้องศึกษาความพร้อม ดังนี้

1.ตรวจประเภทหัวปลั๊กรถยนต์

ก่อนเริ่มติดตั้งที่ชาร์จไฟฟ้าในบ้าน เราควรรู้ก่อนว่าหัวปลั๊กรถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท และรถของเราเหมาะกับแบบไหน เพื่อที่จะได้ติดตั้งหัวชาร์จให้เหมาะสม โดยประเภทหัวชาร์จจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

• การชาร์จแบบเร็ว Quick Charger : เป็นการชาร์จแบบกระแสตรง (DC Charging) สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ 0 - 80% ภายในระยะเวลา 40 - 60 นาที
• การชาร์จแบบธรรมดา Double Speed Charge : เป็นการชาร์จโดยใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Charging) นิยมติดตามบ้านหรือห้างสรรพสินค้า  ใช้ระยะเวลาในการชาร์จครั้งละ 4 - 7 ชั่วโมง
• การชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge : เป็นการชาร์จผ่านตัวเต้ารับในบ้านโดยตรง ใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 12 - 16 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่

2.เลือกตำแหน่งติดตั้งที่ชาร์จ

ตำแหน่งการติดตั้งที่ชาร์จเป็นอีกสิ่งที่เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าควรให้ความสำคัญ เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้ง สะดวกต่อการชาร์จแต่ละครั้ง โดยระยะห่างระหว่างจุดเครื่องชาร์จ จนถึงตัวรถที่จอดไม่เกิน 5 เมตร และควรติดตั้งไม่ไกลจากตู้เมนไฟฟ้า เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินไฟ นอกจากนี้อย่าลืมใส่ใจความปลอดภัยด้วยการหลีกเลี่ยงไฟฟ้าไว้ใกล้กับน้ำ ด้วยการติดตั้งจุดชาร์จกลางแจ้ง เพื่อป้องกันความเสียหายจากความร้อนและน้ำฝน

3.มิเตอร์ไฟฟ้าต้องพร้อม

การติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะทำไม่ได้เลยหากมิเตอร์ไฟฟ้าในบ้านไม่พร้อม ทั่วไปแล้วมิเตอร์ไฟฟ้าในบ้านพักอาศัยจะใช้ 1 Phase 15(45) ซึ่งเป็นกำลังไฟที่ไม่เพียงพอต่อการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้แนะนำมิเตอร์ไฟฟ้าที่ 1 Phase 30(100) หรือ 3 Phase 15(45)A จึงจะเพียงพอต่อการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจุดสาธารณะ

Cr.FreePik

ทุกวันนี้มีการเพิ่มความสะดวกต่อคนใช้รถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการตั้งที่ชาร์จสาธารณะตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทั้งปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า แต่การใช้ที่ชาร์จสาธารณะให้ปลอดภัยคนใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็ต้องคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังนี้

1.หลีกเลี่ยงสถานีชาร์จที่เป็น DC บ่อยเกินไป

แม้ว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบกระแสตรง DC จะช่วยให้แบตเตอรี่รถเต็มเร็วที่สุด จึงเหมาะอย่างยิ่งแก่คนที่ชาร์จระหว่างทาง แต่การชาร์จแบบ DC บ่อยเกินไปอาจส่งผลเสียต่อรถยนต์ไฟฟ้ากว่าที่คิด เนื่องจากการชาร์จแบบ DC นั้นจะทำให้แบตเตอรี่มีอุณหภูมิสูงมาก และต้องทำงานหนักกว่าเดิม ทำให้เสี่ยงที่แบตเตอรี่จะเสื่อมเร็ว

ดังนั้นใครที่ใช้ที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะควรดูว่าสถานีชาร์จมีให้เลือกการชาร์จทั้งแบบ AC และ DC หรือไม่ หากไม่ใช่การเดินทางที่เร่งรีบมากอาจใช้เป็นการชาร์จแบบ AC เพื่อถนอมอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น

2.หลีกเลี่ยงการชาร์จกลางแจ้งเป็นเวลานาน

เพราะความร้อนและรถยนต์ไฟฟ้าคือของที่ไม่ถูกกัน เนื่องจากความร้อนจะทำให้ส่วนต่าง ๆ เสื่อมเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบตเตอรี่ ดังนั้นการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในที่สาธารณะ ควรเลี่ยงการชาร์จในจุดกลางแจ้งที่ต้องตากแดดเป็นเวลานาน หากมีความจำเป็นต้องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านาน ๆ ควรเลือกจุดที่อยู่ในร่มจะดีที่สุด

3.วางแผนการชาร์จล่วงหน้า

กรณีที่ต้องเดินทางไกลจนเกินกว่ากำลังแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า ผู้ขับขี่ควรเตรียมพร้อมสำหรับการชาร์จไฟฟ้าในจุดสาธารณะระหว่างทาง ควรเช็กว่าระหว่างทางมีจุดไหนบ้าง และเพื่อป้องกันการเกิดเรื่องไม่คาดฝันระหว่างทาง ควรจองคิวชาร์จล่วงหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและแพลนเดินทางเป็นไปตามที่กำหนด

สรุป

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ควรศึกษาและให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายจากค่าไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความสะดวกต่อการชาร์จรถยนต์แล้ว ยังช่วยยืดอายุของรถยนต์ไฟฟ้าให้ขับขี่ไปได้อีกนาน ๆ

แต่นอกจากการดูแลรถผ่านการชาร์จที่ถูกต้องแล้ว อย่าลืมทำประกันรถยนต์ไฟฟ้า ใกล้เพื่อช่วยคุ้มครองรถของคุณจากทุกเหตุไม่คาดฝัน คานะขอแนะนำ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ จ่ายเบี้ยประกันง่าย ๆ ไม่ต้องง้อบัตร ผ่อนเงินสด 0% นาน 6 งวด*

*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด