
พ.ร.บ. รถยนต์ ประกันภัยภาคบังคับ
15/10/2025 11:57 น.
พ.ร.บ. รถยนต์ หรือ "ประกันภัยภาคบังคับ" เป็นสิ่งสำคัญที่รถยนต์ทุกคันต้องมีตามกฎหมาย. เอกสารนี้ทำหน้าที่เป็นหลักประกันคุ้มครองให้กับผู้ประสบภัยจากรถทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนขับ ผู้โดยสาร หรือบุคคลภายนอก โดยจะช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยต่าง ๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ พ.ร.บ. เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องต่ออายุทุกปี เพราะหากขาดต่อจะมีโทษปรับสูงสุดถึง 10,000 บาท
พ.ร.บ. รถยนต์ คืออะไร ?
พ.ร.บ. รถยนต์ คือ ประกันภัยภาคบังคับ ย่อมาจาก “พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535” เป็นประกันภาคบังคับที่กำหนดให้เจ้าของรถที่มีชื่อในเล่มทะเบียนหรือรถทุกคันที่จดทะเบียนในกรมขนส่งทางบก จะต้องต่ออายุในทุก ๆ ปี เพื่อเป็นหลักประกันต่อผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก ว่าจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ไม่ว่าผู้ประสบเหตุนั้นจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด
ความสำคัญของ พ.ร.บ. รถยนต์
สำหรับ พ.ร.บ. รถยนต์ จะมีความสำคัญต่อผู้ขับขี่รถยนต์และบุคคลภายนอก ดังนี้
1. ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
อย่างที่ทราบดีว่า พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นสิ่งที่คนมีรถต้องทำตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งการมี พ.ร.บ. รถยนต์ นั้นจะช่วยให้ผู้เอาประกัน รวมถึงผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถ ได้รับความคุ้มครองต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด หรือที่เรียกว่า สวัสดิการสงเคราะห์ของรัฐบาลที่มอบให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายและครอบครัวผู้ประสบภัย ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยจากการเสียชีวิต
2. ลดค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุ
เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้ว สิ่งที่ตามมาคือความเสียหายทั้งทรัพย์สินและร่างกาย พ.ร.บ. รถยนต์ จะช่วยทำหน้าที่ลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากอุบัติเหตุ ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยในกรณีที่เสียชีวิต เป็นเงินมูลค่าสูงสุดร่วม 500,000 บาท ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของผู้เอาประกัน
พ.ร.บ. รถยนต์ คุ้มครองอะไรบ้าง ?
พ.ร.บ. รถยนต์นั้นจะคุ้มครองทั้งฝ่ายถูก-ผิด โดยแบ่งเป็น ดังนี้
ค่าเสียหายเบื้องต้น
ค่าเสียหายเบื้องต้น คือค่าเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ พ.ร.บ. รถยนต์ จะทำหน้าที่คุ้มครอง โดยที่ไม่ต้องรอพิสูจน์ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูก-ผิด โดยแบ่งออกเป็นดังนี้
- กรณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ จะได้รับค่ารักษาพยาบาลสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท
- กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นสูงสุดไม่เกิน 35,000 บาท
- กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร หลังจากได้รับการรักษาพยาบาล พ.ร.บ. รถยนต์ จะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายตามจริงไม่เกิน 30,000 บาท และค่าปลงศพ 35,000 บาท รวมแล้วไม่เกิน 65,000 บาท
ค่าเสียหายส่วนเกิน หรือค่าสินไหมทดแทน
เป็นค่าใช้จ่ายที่ทางบริษัทประกันจะทำการชดใช้ หลังจากที่มีการพิสูจน์ความรับผิดตามกฎหมายแล้ว โดยจะมีการแบ่งการชดใช้กรณีที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายถูกและผิด ดังนี้
กรณีที่เป็นฝ่ายถูก
- กรณีได้รับบาดเจ็บ ได้รับค่ารักษาพยาบาล จ่ายตามจริงสูงสุดไม่เกินคนละ 80,000 บาท
- กรณีสูญเสียนิ้วมือ นิ้วเท้า หรือข้อนิ้ว 1 นิ้วขึ้นไป ได้รับเงินชดเชยคนละไม่เกิน 200,000 บาท
- กรณีสูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน รวมถึงกะโหลกศีรษะเทียม ได้รับเงินชดเชยคนละ 250,000 บาท
- กรณีสูญเสียอวัยวะ 2 ส่วนขึ้นไป ได้รับเงินชดเชยคนละไม่เกิน 500,000 บาท
- กรณีทุพพลภาพถาวรโดยสิ้นเชิง หรือเสียชีวิต ได้รับเงินชดเชยคนละไม่เกิน 500,000 บาท
- กรณีพักรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยใน ได้รับเงินชดเชยวันละ 200 บาท นานสุดไม่เกิน 20 วัน รวมเป็นเงิน 4,000 บาท
กรณีที่เป็นฝ่ายผิด
- กรณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ จะได้รับค่ารักษาพยาบาลสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท
- กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นสูงสุดไม่เกิน 35,000 บาท
- กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร หลังจากได้รับการรักษาพยาบาล พ.ร.บ. รถยนต์ จะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายตามจริงไม่เกิน 30,000 บาท และค่าปลงศพ 35,000 บาท รวมแล้วไม่เกิน 65,000 บาท
พ.ร.บ. รถยนต์ ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง ?
สำหรับกรณีที่อยู่นอกเหนือจากความคุ้มครองของ พ.ร.บ. รถยนต์ มีดังนี้
1. ขับขี่นอกประเทศ
พ.ร.บ. รถยนต์ จะไม่คุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุนอกพื้นที่ประเทศไทย เช่น เกิดอุบัติเหตุในขณะที่ขับรถในพรมแดนประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น เนื่องจากตามกฎหมายนั้นจะถือว่าอยู่นอกเหนืออาณาเขตคุ้มครอง
2. ใช้รถยนต์ในทางที่ผิดกฎหมาย
การใช้รถยนต์ในทางที่ผิดกฎหมาย เช่น การขนส่งยาเสพติด สิ่งของผิดกฎหมาย รวมถึงการนำรถยนต์ไปแข่งความเร็วจนสร้างความเดือดร้อนต่อสังคม แล้วเกิดอุบัติเหตุ จะไม่ได้รับความคุ้มครองใด ๆ จาก พ.ร.บ. รถยนต์
3. ความเสียหายเนื่องจากรถยนต์ถูกโจรกรรม
กรณีที่รถยนต์สูญหายหรือถูกโจรกรรม ยักยอก จะไม่ได้อยู่ในความคุ้มครองของ พ.ร.บ. รถยนต์ ซึ่งการคุ้มครองในกรณีนี้ เจ้าของรถจะต้องเลือก ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่คุ้มครองกรณีนี้เท่านั้น
ไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ ผิดกฎหมายไหม ?
รถที่ไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ จะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ผู้ใดที่นำรถที่ไม่มีประกันภัย พ.ร.บ.มาใช้ ก็มีความผิด มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
พ.ร.บ. รถยนต์ ราคาเท่าไหร่ ?
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้น 645.21 บาท
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้น 967.28 บาท
- รถยนต์บรรทุก ราคาตามน้ำหนัก ราคาเริ่มต้น 967.28 บาท
ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ล่วงหน้าได้กี่เดือน ?
พ.ร.บ. รถยนต์ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนวันหมดอายุ
ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ที่ ไหนได้บ้าง ?
1. ต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์กับโบรคเกอร์ประกันภัย
2. GO by Krungsri Auto Application
3. กรมขนส่งทางบก
4. โครงการเลื่อนล้อต่อภาษี
5. ห้างสรรพสินค้า
6. เคาน์เตอร์เซอร์วิส
สรุป พ.ร.บ. รถยนต์
พ.ร.บ. รถยนต์ หรือ "ประกันภัยภาคบังคับ" เป็นสิ่งสำคัญที่รถทุกคันต้องมีตามกฎหมาย เพราะเป็นหลักประกันความคุ้มครองให้กับทุกคนบนท้องถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นตัวคุณ ผู้โดยสาร หรือบุคคลภายนอก หากรถไม่มี พ.ร.บ. ถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท อย่าปล่อยให้ พ.ร.บ. ขาด! เพื่อความอุ่นใจและไม่ผิดกฎหมาย