Tip&Trick EP. 2: ซื้อประกันรถยนต์อย่างไร ให้ได้ราคาประหยัด

28/08/2023 13:43 น.

การซื้อประกันรถยนต์เป็นสิ่งที่เจ้าของรถทุกคันควรทำทุกปี เพื่อเป็นการคุ้มครองตัวคนขับ บุคคลภายนอก และรถยนต์จากอุบัติเหตุ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าการซื้อประกันรถยนต์แต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชั้นประกันที่เราเลือก ใน Tip&Trick EP. 2 คานะจะมาแนะนำเทคนิคการซื้อประกันรถยนต์ ให้ได้ราคาที่ถูกลง จะมีวิธีไหนบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย

1.ซื้อประกันรถยนต์แบบระบุชื่อคนขับ

ระบุชื่อคนขับ

ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/woman-choosing-car-car-showroom_27334418.htm 

“การระบุชื่อผู้ขับขี่” คือหนึ่งในวิธีช่วยให้สามารถซื้อประกันรถยนต์ในราคาที่ถูกลงได้ เพราะการระบุชื่อผู้ขับขี่ จะทำให้บริษัทประกันสามารถคำนวณความเสี่ยงจากอายุของคนขับ ที่จะมีการแบ่งส่วนลดเบี้ยประกันตามช่วงอายุของผู้ขับขี่ในแต่ละวัย

โดยมีการแบ่งเกณฑ์ส่วนลดตามช่วงอายุ ดังนี้

  • อายุ 18 - 24 ปี ส่วนลดเบี้ยประกัน 5%
  • อายุ 25 - 35 ปี ส่วนลดเบี้ยประกัน 10%
  • อายุ 36 - 50 ปี ส่วนลดเบี้ยประกัน 20%
  • อายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนลดเบี้ยประกัน 15%

 

2.ยิ่งมีประวัติดี ยิ่งได้ส่วนลดหากต่อประกันที่เดิม

ขับรถ

ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/businesswoman-driving-car_11283275.htm

ประวัติการขับขี่เป็นอีกสิ่งที่มีผลต่อการได้รับส่วนลดของเบี้ยประกันรถยนต์เช่นกัน โดยบริษัทประกันภัยจะทำการตรวจสอบประวัติการเคลมของผู้เอาประกัน หากมีการพบว่ามีประวัติการขับขี่ที่ดี ไม่มีการเคลม หรือเคลมแต่เป็นฝ่ายถูก บริษัทประกันภัยจะมอบ “ส่วนลดประวัติดี” ให้ ในกรณีที่ผู้เอาประกันต่อประกันกับบริษัทเดิม เนื่องจากบริษัทประกันต้องการรักษาลูกค้าที่มีประวัติการขับขี่ที่ดีเอาไว้

อัตราส่วนลดประวัติดี มีดังนี้

  • มีประวัติการขับขี่ดีในปีแรก รับส่วนลด 20%
  • มีประวัติการขับขี่ดีต่อเนื่อง 2 ปี รับส่วนลด 30%
  • มีประวัติการขับขี่ดีต่อเนื่อง 3 ปี รับส่วนลด 40%
  • มีประวัติการขับขี่ดีต่อเนื่อง 4 ปีขึ้นไป รับส่วนลด 50%

 

3.กำหนดค่าเสียหายส่วนแรก

อุบัติเหตุรถยนต์

ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/insurance-agent-working-during-site-car-accident-claim-process-people-car-insurance-claim_5597942.htm

อีกหนึ่งวิธีลดค่าเบี้ยประกันให้ถูกลง คือการกำหนดค่าเสียหายส่วนแรก หรือ “Deductible” ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายมาก หรือน้อย โดยทาง คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) ได้กำหนดให้ค่าเสียหายส่วนแรกไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งหากเรากำหนดค่าเสียหายส่วนแรกสูง ก็จะได้ค่าเบี้ยประกันที่ถูกลง เช่น เบี้ยประกันทั้งหมด 15,000 บาท เลือกเป็นค่าเสียหายส่วนแรก 3,000 บาท ค่าเบี้ยประกันก็จะเหลือเพียง 12,000 บาท

 

4.ติดตั้งกล้องหน้ารถ

กล้องหน้ารถ

ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/man-getting-ready-new-taxi-ride_19966547.htm

ในปัจจุบันการติดตั้งกล้องหน้ารถ เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ใช้รถเป็นประจำ เพื่อเป็นหลักฐานพิสูจน์ความถูก/ผิด ในยามที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ซึ่งการติดกล้องหน้ารถนี้ยังเป็นส่วนช่วยให้เจ้าของรถได้รับส่วนลดเบี้ยประกันอีกด้วย เนื่องจากทาง คปภ. ได้มองเห็นว่า การติดตั้งกล้อง CCTV บนรถยนต์นั้น บ่งบอกถึงความมีวินัยในการขับขี่ของเจ้าของรถ ที่ต้องการระวังอุบัติเหตุ ทำให้มีการออก “คำสั่งนายทะเบียน” มีผลตั้งแต่ 3 มีนาคม 2560 ระบุให้ บริษัทประกันภัยลดราคาเบี้ยประกันลง 5-10% สำหรับรถที่มีกล้องหน้ารถ

 

5.เลือกประเภทการซ่อมเป็น “ซ่อมอู่”

ซ่อมอู่

ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/male-mechanic-working-shop-car_38049305.htm

อย่างที่หลายคนทราบดีว่า การซ่อมรถยนต์นั้น จะแบ่งออกเป็น ‘ซ่อมอู่’ และ ‘ซ่อมศูนย์’  ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อเราซื้อประกันรถยนต์ บริษัทประกันจะเลือก ซ่อมศูนย์ มาให้ เนื่องจากเป็นการซ่อมกับอู่ตัวแทนจำหน่าย ที่ทำให้เจ้าของรถได้บริการการซ่อมที่มีคุณภาพจากช่างมืออาชีพ รวมถึงได้อะไหล่แท้ แต่ว่าการซ่อมอู่นั้นก็มีราคาที่ค่อนข้างแพง ดังนั้นถ้าอยากซื้อประกันรถยนต์ในราคาที่ถูกลง ควรเลือกการซ่อมอู่ ที่เป็นการซ่อมกับอู่ในเครือประกันแทน ซึ่งจะทำให้เบี้ยประกันมีราคาถูกกว่าการซ่อมศูนย์

 

6.เปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ

เปรียบเทียบประกัน

ที่มาของรูป: https://www.freepik.com/free-photo/car-insurance-form-accidental-concept_17140520.htm

ซื้อประกันรถยนต์ก็ไม่ต่างจากการซื้อสินค้า หรือบริการชนิดอื่น ๆ ที่มีให้เลือกมากมายหลายโปรโมชัน และมีบริษัทประกันภัยหลายเจ้า ที่ประกันชั้นเดียวกันแต่อาจมีราคา และการคุ้มครองที่ต่างกัน ดังนั้นก่อนซื้อประกันควรศึกษาให้ดีก่อนว่าประกันรถยนต์แต่ละเจ้ามีราคาต่างกันอย่างไร คุ้มครองอะไรบ้าง?

 

นอกจากการเปรียบเทียบกับประกันเจ้าอื่นแล้ว ในปัจจุบันเจ้าของรถยังสามารถเปรียบเทียบว่ารถยนต์ของคุณ เหมาะกับประกันชั้นไหนบ้าง  อีกด้วย ทำให้เจ้าของรถสามารถได้เลือกชั้นประกันที่ให้การคุ้มครองที่ครอบคลุมในราคาที่คุ้มที่สุด

 

สรุป

เทคนิคการซื้อประกันรถยนต์ในราคาถูก เป็นอีกสิ่งที่คนขับรถควรรู้ เพราะนอกจากเป็นการรักษาผลประโยชน์ของตนเองแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอีกด้วย หากใครกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถของคุณ คานะขอแนะนำเลือกประกันตามงบ  กับ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ เพียงแค่ระบุรุ่นของรถ และงบประกัน คานะจะแนะนำราคาประกันที่เหมาะสมกับรถ ให้คุณได้การคุ้มครองในราคาที่คุ้มค่าที่สุด