_Final.jpg)
รถยนต์ไฟฟ้า vs รถยนต์น้ำมัน ต่างกันอย่างไรบ้าง ?
24/04/2025 15:34 น.
ในช่วงที่รถยนต์ไฟฟ้า กำลังเข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันมากขึ้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ หรือสิ่งแวดล้อม หลายคนอาจสงสัยว่า รถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์น้ำมัน ที่เราใช้ขับขี่กันมาเนิ่นนานนั้น มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ในวันนี้คานะจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยนี้กัน
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
Cr.Freepik
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม : รถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้าขึ้นชื่อในเรื่องของการช่วยลดมลพิษต่อโลก และสิ่งแวดล้อม เพราะรถยนต์ไฟฟ้าใช้พลังงานจากไฟฟ้าเป็นหลัก ไม่มีการเผาไหม้จากเครื่องยนต์ ที่เป็นสาเหตุในการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสีย ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกยอดนิยมของคนที่รักโลก อยากดูแลสิ่งแวดล้อม ทำให้ปัจจุบันได้มีทั้งภาครัฐ และเอกชน ได้ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และลดภาษีรถยนต์เพื่อสนับสนุนให้ผู้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม : รถยนต์น้ำมัน
เนื่องจากรถยนต์น้ำมัน มีการใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงเพื่อทำการระเบิด หรือเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์สันดาป ซึ่งการเผาดังกล่าวทำให้รถยนต์น้ำมันมีการปล่อยควันออกมาจากท่อไอเสีย ที่เป็นสาเหตุของปัญหามลพิษทางอากาศในปัจจุบัน เนื่องจากควันจากท่อไอเสียรถยนต์นั้นเต็มไปด้วยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และฝุ่น 2.5 ไมครอน ที่เป็นอันตรายต่อโลก และสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันทางผู้ผลิตรถยนต์น้ำมันได้ตระหนักถึงปัญหามลพิษที่เกิดจากรถยนต์ ทำให้มีการพัฒนารถรุ่นใหม่ที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น เพื่อลดการปล่อยมลพิษ และทำให้รถยนต์น้ำมันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
สมรรถนะ และความสะดวกสบาย
Cr.Freepik
สมรรถนะ และความสะดวกสบาย : รถยนต์ไฟฟ้า
ด้วยความที่รถยนต์ไฟฟ้า มาพร้อมด้วยเทคโนโลยียานยนต์ที่มีความทันสมัย ตอบโจทย์กับผู้ใช้รถยนต์ในยุคปัจจุบัน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความสะดวกสบายกว่ารถยนต์น้ำมัน รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นมีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้งาน ทำให้รถมีโหมด Auto Pilot ที่สามารถขับเคลื่อนได้เอง รวมถึงการใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัย และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
สมรรถนะ และความสะดวกสบาย : รถยนต์น้ำมัน
รถยนต์น้ำมัน เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป ที่ใช้พลังงานน้ำมันในการขับเคลื่อน มีการนำมาใช้งานนานร่วมศตวรรษ ทำให้มีรูปแบบการขับขี่ที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย แต่ด้วยความซับซ้อนของเครื่องยนต์แบบสันดาปทำให้เครื่องยนต์ของรถมี เสียงดัง และมีการกระชากเมื่อเปลี่ยนเกียร์
การใช้เชื้อเพลิง / พลังงาน
Cr.Freepik
การใช้พลังงาน : รถยนต์ไฟฟ้า
ขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แน่นอนว่าต้องเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก โดยพลังงานทั้งหมดที่ใช้ในรถนั้น จะมาจากแบตเตอรี่ไฟฟ้าภายในเครื่อง ผู้ใช้สามารถเติมพลังงานให้รถด้วยการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่แทนการเติมน้ำมัน เชื้อเพลิง ซึ่งสามารถติดตั้งเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่บ้านได้ รวมถึงในปัจจุบันก็ได้มีการติดตั้งจุดบริการชาร์จแบตเตอรี่ ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะประหยัดพลังงาน และลดการใช้น้ำมัน แต่ข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้าคือระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ ที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน หากต้องการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มต้องใช้ระยะเวลานานถึง 5-6 ชั่วโมง นอกจากนี้สถานีให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ยังมีให้บริการน้อยในประเทศไทย และสร้างความไม่สะดวกหากเจ้าของรถยนต์ต้องเดินทางไกล
การใช้พลังงาน : รถยนต์น้ำมัน
สำหรับรถยนต์น้ำมัน จะใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลัก สามารถหาสถานีเติมได้ง่าย และสะดวกสบาย แต่อย่างไรก็ตาม รถยนต์น้ำมันค่อนข้างเต็มไปด้วยข้อเสีย คือราคาของน้ำมันที่มักมีความผันผวน ไม่แน่นอน และรถยนต์แต่ละรุ่นก็มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่างกัน ทำให้เจ้าของรถน้ำมันต้องเสียเงินในการเติมน้ำมันแต่ละครั้งค่อนข้างสูง
การบำรุงรักษา
Cr.Freepik
การบำรุงรักษา : รถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้า มีโครงสร้างต่างจากรถยนต์น้ำมัน เนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์ที่ซับซ้อน ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และทำงานผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้สะดวกแก่เจ้าของรถในการดูแลรักษา และไม่ต้องเสียเวลาในการเปลี่ยนอะไหล่ หรือบำรุงรักษาบ่อย ๆ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าถูกออกแบบมาให้สามารถใช้ซ้ำเป็นประจำได้ มีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 6-8 ปี เจ้าของรถสามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้นด้วยการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มประจุอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์
การบำรุงรักษา : รถยนต์น้ำมัน
รถยนต์น้ำมัน เป็นรถที่มีการใช้เครื่องยนต์สันดาป และมีโครงสร้างที่ซับซ้อน เจ้าของรถควรหมั่นดูแลรักษารถ อยู่เป็นประจำ ต้องหมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 8,000 - 10,000 กิโลเมตร หรือเปลี่ยนทุก ๆ 6 เดือน นอกจากนี้รถยนต์น้ำมันก็มีชิ้นส่วนอะไหล่ที่เยอะกว่ารถยนต์ไฟฟ้า ทำให้เจ้าของรถต้องเสียค่าซ่อม และค่าเปลี่ยนอะไหล่รถบ่อย ๆ
สรุป
รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์น้ำมัน ต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเพื่อน ๆ จะเลือกใช้งานว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้ชีวิตของตัวเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต อย่าลืมที่จะมองหาประกันรถเพื่อช่วยคุ้มครองดูแลรถยนต์ของคุณ คานะขอแนะนำประกันรถผ่อนจ่ายเงินสด 0% สูงสุด 10 งวด ซื้อง่าย ไม่ง้อบัตร โดยสามารถเลือกซื้อประกันที่คุณสนใจกับคานะ ได้ที่ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์
ข้อมูลอ้างอิง:
https://bit.ly/3HrQFgi
https://www.thairath.co.th/news/auto/news/2474845
https://www.smartsme.co.th/content/246310