_final.jpg)
ฟินรับลมหนาว! 4 ที่เที่ยวธรรมชาติสุดฮิต
16/12/2024 22:54 น.
Cr.FreePik
ใกล้สิ้นปีแบบนี้ หลายคนคงเริ่มวางแผนเดินทางท่องเที่ยวรับลมหนาวกันแล้ว โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างดอยและป่าเขา ที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ วันนี้คานะได้รวบรวม 4 สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติสุดฮิตสำหรับฤดูหนาวนี้ จะมีที่ไหนบ้าง ไปติดตามอ่านกันได้เลย!"
1.ภูกระดึง จ.เลย
Cr.ShutterStock
ภูกระดึง หนึ่งในจุดเช็กอินยอดนิยมในช่วงหน้าหนาว เพราะที่นี่ถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมความสวยงามธรรมชาติไว้อย่างเต็มเปี่ยม บรรยากาศรายล้อมไปด้วย หน้าผา ลำธาร ป่าไม้ ด้วยพื้นที่กว้าง 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งระยะทางในการเดินทางขึ้นเขาเพื่อไปพิชิตภูกระดึง มีระยะทางถึง 5,500 เมตร เลยทีเดียว และด้วยความสูงชันนี้เอง ที่ทำให้ที่นี่มักเป็นสถานที่ใช้ทดสอบรักแท้ของคู่รัก ที่จะช่วยเหลือดูแลกันจนสามารถไปพิชิตภูกระดึงได้หรือไม่
ไฮไลท์เด็ดของที่นี่ก็ต้องยกให้จุดชมวิว เช่น ผาหล่มสักและผาหมากดูก ที่ขึ้นชื่อเรื่องจุดชมพระอาทิตย์ตก หรือ ผานกแอ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมี ผาแดง ที่เป็นจุดไว้ถ่ายรูป นั่งชมวิวสวย ๆ อีกด้วย โดยอุทยานภูกระดึงนั้นจะมีฝนตกชุกตลอดปี ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 26 องศาเซลเซียส แต่ถ้าไปช่วงหน้าหนาวในเดือนธันวาคมถึงมกราคม อุณหภูมิอาจลดลงถึง 19 องศาเซลเซียส ใครที่อยากสัมผัสลมหนาวแบบเต็มอิ่มไม่ควรพลาด!
2.ดอยเสมอดาว จ.น่าน
Cr.ShutterStock
ดอยเสมอดาว ถือว่าเป็นอีกจุดชมวิวยอดนิยมแห่งอุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน เลยก็ว่าได้ ด้วยระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 888 เมตร ทำให้ที่แห่งนี้เป็นจุดที่เหมาะอย่างยิ่งในการชมทะเลหมอก ชมพระอาทิตย์ขึ้น รวมถึงดูดาว ท่ามกลางบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เงียบสงบ นอกจากนี้ดอยเสมอดาวยังเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่อุณหภูมิอาจลดลงจนเหลือเพียงเลขตัวเดียวเลยทีเดียว
อีกหนึ่งจุดไฮไลต์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาดอยเสมอดาว คือผาหัวสิงห์ ซึ่งมีรูปร่างคล้ายสิงโตกำลังหมอบอยู่ บริเวณยอดผาหัวสิงห์สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา ทิศเหนือมองเห็นอำเภอเวียงสา ทิศใต้เห็นแนวทิวเขายาว ทิศตะวันตกเห็นอำเภอนาน้อย และทิศตะวันออกเห็นวิวผาชู้ เรียกได้ว่าเป็นจุดเช็กอินสำคัญที่ใครมาดอยเสมอดาวต้องไม่พลาด!
3.ดอยผาฮี้ จ.เชียงราย
Cr.ShutterStock
ดอยผาฮี้ ไม่ใช่แค่ที่เที่ยวธรรมชาติที่เน้นสัมผัสบรรยากาศป่าเขาเท่านั้น แต่ที่แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาอาข่า ที่ตั้งอยู่บริเวณแนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่า จุดเช็กอินห้ามพลาดของที่นี่ ได้แก่ สะพานไม้ไผ่ไร่ผาฮี้ ที่เป็นทางเดินสะพานไม้ไผ่ไล่ระดับเนินเขา ซึ่งเป็นจุดชมหมอกยอดนิยม และ ลานสาวกอด พื้นที่ถ่ายรูปสุดเก๋ที่มาพร้อมกับชิงช้าแบบดั้งเดิมของชาวอาข่า ให้คุณเก็บความทรงจำดี ๆ ได้ไม่ซ้ำใคร
เมื่อพูดถึงดอยผาฮี้ สิ่งที่พลาดไม่ได้คือการนั่งจิบกาแฟ เพราะที่นี่ถือเป็นแหล่งปลูกกาแฟชั้นดีอีกแห่งของไทย ดอยผาฮี้จึงเต็มไปด้วยร้านกาแฟท้องถิ่นที่มอบทั้งรสชาติและบรรยากาศสุดพิเศษ
กิจกรรมยอดนิยมสำหรับผู้มาเยือนคือการจิบกาแฟท่ามกลางวิวธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่คุณจะได้สัมผัสกับความเขียวขจีของขุนเขา พร้อมลมเย็น ๆ ที่ทำให้การพักผ่อนที่นี่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
4.ภูลังกา จ.พะเยา
Cr.FreePik
อีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติเอาใจคนชอบผจญภัย ขอยกให้ ภูลังกา หรือวนอุทยานภูลังกา โดยที่แห่งนี้จะเป็นเทือกเขาสลับซ้อน มีความสูง 900 - 1,720 เมตร จากระดับน้ำทะเล กิจกรรมยอดนิยมของการเที่ยวภูลังกาคือการเดินชมธรรมชาติและพิชิตยอดดอย โดยระยะทางเดินป่าจะยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ระหว่างทางรายล้อมด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด รวมทั้งยังมีนกหลากหลายชนิด ให้ได้ชมตลอดทาง
สำหรับใครที่ไปภูลังกาในช่วงปลายฝนต้นหนาว อีกกิจกรรมที่ห้ามพลาดคือการไปกางเต็นท์ชมทะเลหมอก ดูดาว และวิวพระอาทิตย์ขึ้น หรือหากใครที่เป็นสายคาเฟ่ ในบริเวณจุดชมวิวนี้ก็ยังมีร้านกาแฟ Magic Mountain Cafe ให้ได้พักผ่อน ถ่ายรูป และจิบกาแฟชมวิวทิวทัศน์สวย ๆ อีกด้วย
สรุป
จบไปแล้วกับ 4 สถานที่เที่ยวธรรมชาติที่คานะคัดมาให้ แต่ละที่ล้วนเหมาะสำหรับการชมวิวหมอก รับลมหนาว และเพลิดเพลินกับธรรมชาติสวยๆ ใครที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายมาชาร์จพลังกับธรรมชาติ ต้องห้ามพลาด! แต่สำหรับใครที่วางแผนขับรถไปเที่ยวรับลมหนาว อย่าลืมเตรียมความพร้อม และเพิ่มความอุ่นใจด้วยประกันรถยนต์ คานะขอแนะนำ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ประกันรถยนต์สุดคุ้ม พร้อมผ่อนสบายกระเป๋า