ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมที่คุณต้องรู้

21/12/2022 14:44 น.

สรุปให้อ่านง่าย

  1. ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม คือ เงินชดเชยจากการเกิดอุบัติเหตุที่ฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องจากบริษัทประกันภัยของคู่กรณีเพื่อใช้เป็นค่าเดินทางในระหว่างที่เราเอารถยนต์เข้าซ่อม
  2. เป็นสิทธิ์ของผู้ทำประกันรถยนต์ฝ่ายถูกที่เรียกร้องได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่หลายคนไม่รู้มาก่อน
  3. ขั้นตอนการเคลมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม คือ เมื่อเราเป็นฝ่ายถูก มีใบเคลม ใบประเมินค่าซ่อม มีรายละเอียดระบุวันที่ที่เอารถเข้าซ่อมอย่างชัดเจน มีรูปถ่ายรถยนต์ระหว่างซ่อม มีใบเสร็จค่าซ่อม ใบรับรถเมื่อซ่อมเสร็จ ตารางกรมธรรม์ของเราเอง สำเนาทะเบียนรถเรา สำเนาใบขับขี่ สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร และแบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม และจดรายละเอียด

เพื่อนๆ บางคนคงเคยเจอเหตุการณ์ที่เราขับรถอยู่ดีๆ ก็โดนรถใครก็ไม่รู้มาชนหรือมาเฉี่ยวแล้วก็ต้องแอบข้างทาง โทรแจ้งประกัน รอประกันมา รอรับใบเคลม ก่อนจะแยกย้ายกันไปซึ่งก็ใช้เวลาหลักชั่วโมงเลยและถ้าคู่กรณียอมรับผิดเรื่องราวก็จะง่ายขึ้นเสียแค่เวลาเท่านั้น แต่ถ้าเจอคู่กรณีชนแล้วหนีไปเลยก็จะวุ่นวายเข้าไปอีกเพราะเราต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สน.ที่เกิดเรื่องเพื่อลงบันทึกประจำวันแล้วจึงแจ้งประกัน รับใบเคลม ตามสืบหลักฐานต่างๆ กันอีกถ้าไม่ได้ทำประกันชั้น 1 ไว้ แอบเซ็งเหมือนกันนะครับ ขั้นตอนเยอะจริงๆ แต่มีน้อยคนนักที่รู้ว่า เมื่อเราเป็นฝ่ายถูกและรถเราทำประกันรถยนต์ไว้เราสามารถเคลมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมได้นะครับ

ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม คือ

ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม คือ ค่าสินไหมทนแทนหรือเงินชดเชยจากการเกิดอุบัติเหตุที่ฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องจากบริษัทประกันภัยของคู่กรณีได้เพื่อใช้เป็นค่าเดินทางในระหว่างที่เราเอารถยนต์เข้าซ่อมครับ เจ้าค่าเนี้ยตอนที่เราซื้อประกันรถยนต์ก็แทบจะไม่มีใครพูดถึงเลย และหลายครั้งเมื่อเราเกิดอุบัติเหตุขึ้นเราก็ไม่ได้เตรียมตัวไว้ทำให้พลาดการแจ้งเคลมไปอย่างเสียดาย ผมจึงอยากให้เพื่อนๆ รู้จักค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมไว้ครับ

แต่อย่างที่เล่าให้ฟังนะครับ ว่าค่านี้จะเคลมได้เมื่อเราเป็นฝ่ายถูก มีคู่กรณีที่เป็นยานพาหนะทางบก (รถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์) รถเราได้ทำประกันรถยนต์ไว้แบบระบุชื่อเราเองหรือทำแบบไม่ระบุชื่อก็ได้ ตัวเรามีใบขับขี่อย่างถูกต้อง ส่วนชื่อเจ้าของรถไม่ใช่ชื่อตัวเราเองได้ครับ สำคัญที่เรามีใบขับขี่ถูกต้องและทำประกันรถยนต์ไว้อย่างถูกต้องครับ  

ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมเป็นสิทธิ์ของฝ่ายถูกที่ทำประกันรถไว้

หลายคนเคยบ่นว่า ซื้อประกันรถยนต์แต่ละปีไว้ไม่คุ้มเลย เพราะเราเป็นคนที่ขับรถชำนาญแล้วไม่เคยแจ้งเคลม ไม่มีเฉี่ยวชน ผมอยากจะบอกว่าการแจ้งเคลมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมนี่ไงครับ คือตัวอย่างของการทำประกันรถยนต์ที่คุ้มค่ามากกว่าแค่ตอนที่เราเป็นฝ่ายผิดแล้วต้องเตรียมเงินมาจ่ายค่าซ่อมรถ ค่าเสียหายหรือค่าชดเชยต่างๆ (เรียกได้ว่าทำประกันเป็น) เพราะเมื่อเราไม่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุ เราเป็นฝ่ายได้รับความเสียหาย เราก็สามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ในระหว่างที่เราต้องเอารถไปซ่อมตามข้อกำหนดของ คปภ. เพื่อถือเป็นค่าเดินทางได้เลยครับ

สิ่งที่น่าเสียดายคือ ตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัยบางคนไม่เคยอธิบายประโยชน์ข้อนี้ให้ลูกค้าฟังเลย ตอนที่ผมทำประกันรถยนต์ปี 2-3 แรกไม่เคยได้ยินคำนี้เลยดีกว่าครับ เพิ่งจะมารู้จักค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมก็ตอนที่พี่ๆ เจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยกรุงศรีอธิบายให้ฟังเลยอยากให้เพื่อนๆ ที่ทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจทุกคนรู้จักจะได้ใช้ได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นครับ

ขั้นตอนการเคลมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม คือ

เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นและตกลงกันได้เรียบร้อยกับคู่กรณีว่าเราเป็นฝ่ายถูก หลังจากที่เราโทรแจ้งอุบัติเหตุแล้ว 

  • รอรับใบแจ้งเคลมจากเจ้าหน้าที่ประกันภัย ถ่ายเอกสารเก็บไว้ด้วยนะครับ 
  • นำรถยนต์ไปที่ศูนย์หรืออู่ซ่อม พร้อมให้ศูนย์หรืออู่ซ่อมประเมินความเสียหายส่งเป็นเอกสารให้เราเก็บไว้ด้วย พร้อมยื่นใบเคลมเพื่อแจ้งซ่อม
  • ขอใบรับรถมาจากศูนย์หรืออู่มาให้เรียบร้อย ถ่ายเอกสารเก็บไว้ด้วย
  • แจ้งศูนย์หรืออู่ให้ถ่ายรูปตอนซ่อมรถแล้วส่งมาให้เราดูด้วย เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานในการยื่นแบบฟอร์มเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม
  • เมื่อรถซ่อมเสร็จก็ให้เราไปรับรถพร้อมขอสำเนาใบรับรถหรือหนังสือส่งมอบรถเสร็จที่ระบุวันที่ไว้อย่างชัดเจน
  • จากนั้นให้เรา download แบบฟอร์มแจ้งเคลมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมจากบริษัทประกันของคู่กรณี หรือจะหาแบบฟอร์มในอินเตอร์เน็ทก็ได้นะครับ
  • เตรียมเอกสารของตัวเราเองให้พร้อมเริ่มจากใบขับขี่รถยนต์และสำเนาด้วย
  • สำเนาหน้าตารางกรมธรรม์ประกันรถยนต์ปัจจุบันของรถเรา ทุกชั้นแจ้งเคลมได้ครับ
  • สำเนาทะเบียนรถยนต์ของเรา
  • สำเนาบัญชีธนาคารที่เราจ้องการให้โอนเงินค่าขาดประโยชน์กลับมาให้ซึ่งก็ควรเป็นบัญชีของตัวเราเองนะครับ

เพื่อการตามเรื่องแบบใช้เวลารวดเร็วที่สุดและไม่ต้องไปหลายๆ รอบ ผมขอแนะนำให้เตรียมเอกสารให้ครบในครั้งเดียว และเมื่อเราเดินทางไปด้วยตัวเองเพื่อติดต่อเรื่องการเคลมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมก็ขอชื่อและเบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่กลับมาด้วยนะครับเราจะได้ตามเรื่องถูกคน ถูกแผนกครับ

ส่วนระยะเวลาที่เราต้องรอคอยนั้นขึ้นอยู่กับการดำเนินงานของแต่ละบริษัทประกันภัยนะครับ ถ้าใช้เวลานานเป็นเดือนๆ เราก็ควรโทรสอบถามผลเป็นระยะด้วย แล้วก็บอกให้ทำใจกันก่อนว่า เงินชดเชยที่เราจะได้กลับมาอาจจะไม่ได้ 100% เต็มตามที่เราตั้งไปนะครับเพราะตามข้อกำหนดของคปภ. เองก็จะมีราคากลางที่บริษัทประกันภัยใช้ในการคำนวณค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมให้เราครับ

ใครสงสัยเรื่องการเคลมค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมไม่ต้องเกรงใจ ถามผมมาได้เลยครับ เดี๋ยวผมช่วยหาคำตอบให้ทุกคนครับ