รวมเทคนิคการดูแลรถยนต์ไฟฟ้า ให้ขับได้ยาวนานยิ่งขึ้น

22/01/2024 10:55 น.

รวมเทคนิคการดูแลรถยนต์ไฟฟ้า ให้ขับได้ยาวนานยิ่งขึ้น

Cr.Freepik 

ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าได้เข้ามามีบทบาทในการใช้รถของผู้คนมากขึ้น เพราะนอกจากการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นการช่วยลดมลภาวะ และช่วยลดโลกร้อนแล้ว ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยียานยนต์ที่ทันสมัยอีกด้วย แต่รถยนต์ไฟฟ้าก็ไม่ต่างจากรถยนต์สันดาป ที่ต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่ วันนี้คานะได้รวมเทคนิคการดูแลรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้สามารถใช้งานขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

 

1.หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน

จอดรถที่ร่ม

Cr.Freepik    

แสงแดดและความร้อน เป็นอันตรายต่อทั้งรถยนต์สันดาปและรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี่เป็นส่วนสำคัญ ที่ควรหลีกเลี่ยงจากความร้อนของแสงแดด เนื่องจากการจอดรถยนต์ไฟฟ้าตากแดดเป็นเวลานาน จะส่งผลให้แบตเตอรี่มีอุณหภูมิที่สูงมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เสื่อมสภาพเร็วมากขึ้น ดังนั้นทางที่ดีในการดูแลรถยนต์ไฟฟ้าคือหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน พยายามจอดรถในที่ร่มเพื่อให้อุณหภูมิของรถมีความทรงตัว

 

2.ชาร์จแบตเตอรี่ให้อยู่ระดับที่พอดี

ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

Cr.Freepik   

นอกจากการหลีกเลี่ยงรถจากแสงแดดแล้ว การชาร์จแบตเตอรี่ คือเรื่องสำคัญที่คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าควรให้ความสำคัญ โดยการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องชาร์จให้แบตเตอรี่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ทุกครั้ง เนื่องจากการชาร์จแบตให้เต็มลิมิตสูงสุดเป็นประจำ จะส่งผลให้แบตเตอรี่เกิดความสึกหรอและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ซึ่งประจุแบตเตอรี่ที่เหมาะสมของรถไฟฟ้านั้นควรอยู่ที่ 20 - 80 เปอร์เซ็นต์

ส่วนการเลือกรูปแบบการชาร์จนั้น ควรชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charger) ที่อาจใช้เวลานาน 6 - 8 ชั่วโมงในการชาร์จ เพราะถึงแม้ว่าการชาร์จในรูปแบบกระแสตรง (DC Charger) จะช่วยลดระยะเวลาการชาร์จให้ไวขึ้น แต่ก็ทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้นต่อเนื่อง และทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพการใช้งานเร็วยิ่งขึ้น

 

3.หมั่นตรวจสอบแรงดันลมยาง

เช็กยางรถยนต์

Cr.Freepik

ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์สันดาปหรือรถยนต์ไฟฟ้า แรงดันลมยางคือสิ่งที่เจ้าของรถควรให้ความสำคัญ โดยทั่วไปแล้วยางรถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถวิ่งได้ประมาณ 30,000 - 40,000 กิโลเมตร ทั้งนี้อายุการใช้งานของยางจะขึ้นอยู่กับการใช้งานรถยนต์ ยิ่งหากใช้งานเป็นประจำหรือมีการบรรทุกของหนักบ่อย ๆ จะส่งผลให้ยางเสื่อมสภาพการใช้งานเร็วขึ้น ดังนั้นจึงควรหมั่นตรวจสอบลมยางเป็นประจำ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และเติมลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการใช้งาน ไม่ควรเติมลมยางมากจนเกินไป

 

4.ตรวจเช็กระบบเบรกเป็นประจำ

เช็กระบบเบรก

Cr.Freepik  

รถยนต์ไฟฟ้านั้นจะใช้ระบบเบรกที่เป็น Regenetative Braking ซึ่งเป็นการเบรกที่สามารถชาร์จไฟได้ ทำให้เป็นการช่วยถนอมผ้าเบรกไปในตัว ช่วยให้เบรกของรถยนต์ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่ารถยนต์สันดาป แต่การดูแลระบบเบรกก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเจ้าของรถสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ด้วยการเปลี่ยนเบรกเมื่อใช้งานไปแล้ว 80,000 กิโลเมตร และหลีกเลี่ยงการนำรถบรรทุกของหนัก นอกจากนี้ควรหมั่นตรวจเช็กระบบเบรกว่ามีเสียงที่ผิดปกติหรือไม่ หากพบว่ามีเสียงคล้ายเหล็กครูด เสียดสีกัน ควรเปลี่ยนผ้าเบรกทันที

 

5.มีประกันรถยนต์ไฟฟ้า

ประกันรถยนต์ไฟฟ้า

Cr.Freepik 

สิ่งที่จะช่วยคุ้มครองรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างครอบคลุม และมีประสิทธิภาพก็คือ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งให้ความคุ้มครองแทบจะเหมือนกับประกันรถยนต์สันดาป ไม่ว่าจะเป็นเหตุไม่คาดฝัน รวมถึงความเสียหายที่เกิดต่อตัวรถ ซึ่งความคุ้มครองของรถยนต์ไฟฟ้า จะครอบคลุมถึงค่าอะไหล่ และอุปกรณ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมบริการซ่อมศูนย์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้อะไหล่แท้ รวมถึงสร้างความอุ่นใจให้คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

 

สรุป

จะเห็นได้ว่าการดูแลรถยนต์ไฟฟ้านั้นเจ้าของรถสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงหมั่นสังเกตอาการของรถ รวมถึงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำร้ายรถ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยยืดเวลาการใช้งานของรถให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้อย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจให้การใช้รถยนต์ไฟฟ้าของคุณมากยิ่งขึ้นด้วย สำหรับใครที่ใช้ Tesla คานะแนะนำ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ชั้น 1 Tesla ราคาเริ่มต้น 58,500 บาท* แบ่งจ่ายเงินสดสูงสุด 6 งวด*

 

*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด