ไขข้อสงสัย ซื้อประกันแบบไหนลดหย่อนภาษีได้บ้าง

07/12/2023 16:25 น.

ไขข้อสงสัย ซื้อประกันแบบไหนลดหย่อนภาษีได้บ้าง

Cr.Freepik 

เพราะชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะโรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุไม่คาดคิด การซื้อประกันจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรมีติดไว้ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงแก่ตัวเราเองและคนข้างหลัง แต่นอกจากคุ้มครองตัวเราแล้วการซื้อประกันยังสามารถลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ในบทความนี้คานะจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยและทำความเข้าใจว่า ประกันแบบไหนลดหย่อนภาษี ได้บ้าง

 

ค่าลดหย่อนภาษี คืออะไร

ค่าลดหย่อนภาษี เป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายประมวลรัษฎากร ที่จะช่วยให้ประชาชนเสียภาษีน้อยลง โดยเงินได้สุทธิที่ได้หลังจากคิดค่าลดหย่อนภาษีนั้น จะถูกนำมาคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ในกรณีของการซื้อประกันนั้น ก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน เนื่องจากการซื้อประกันนั้นเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ดังนั้นทางภาครัฐจึงมอบสิทธิพิเศษให้กับคนที่ซื้อประกันด้วยการลดหย่อนภาษีได้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงให้เกิดแรงจูงใจให้ทุกคนอยากทำประกันมากขึ้น

 

ประกันแบบไหนบ้างที่ลดหย่อนภาษีได้

สำหรับประกันที่สามารถลดหย่อนภาษีได้นั้น หลัก ๆ จะเป็นประกันชีวิต ซึ่งกรมสรรพากรได้ระบุเงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีของประกันชีวิตจะต้องคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป โดยประกันลดหย่อนภาษีจะมี 2 ประเภท ดังนี้

1.ประกันชีวิตแบบทั่วไป

ประกันชีวิต

Cr.Freepik

เป็นประกันที่จะทำหน้าที่ให้ความคุ้มครองชีวิต โดยผู้เอาประกันจะได้รับเงินหรือความคุ้มครองในกรณีที่เสียชีวิต ทั้งนี้กรมสรรพากรได้กำหนดให้สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งประกันชีวิตแบบทั่วไปนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ดังนี้

1.1 ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)

เป็นประกันที่เน้นให้ความคุ้มครองในระยะยาว เหมาะแก่คนที่ต้องการความมั่นคงในชีวิตจากกรณีฉุกเฉินหรือเหตุไม่คาดฝัน เพื่อให้มีเงินออมแก่คนข้างหลัง ผู้เอาประกันสามารถเลือกได้ว่าจะทำประกันถึงอายุเท่าไหร่ โดยจะให้ความคุ้มครองจนถึงอายุสูงสุดที่ 99 ปี หากผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่จนถึงครบสัญญา บริษัทประกันจะจ่ายเงินตามที่ระบุแก่ผู้เอาประกัน หากกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตบริษัทประกันจะทำการจ่ายเงินแก่ผู้รับผลประโยชน์

1.2 ประกันชีวิตแบบระยะสั้น (Term Insurance)

เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองในช่วงเวลาสั้น ๆ เป็นช่วงเวลาหนึ่ง โดยสามารถแบ่งระยะเวลาได้ตั้งแต่ 1 - 10 ปี โดยหน้าที่ของประกันชีวิตระยะสั้นนี้จะคุ้มครองกรณีเสียชีวิตเท่านั้น ดังนั้นหากผู้เอาประกันมีชีวิตจนครบกำหนดสัญญาจะไม่มีเงินคืนเหมือนประกันชีวิตประเภทอื่น แต่ประกันชีวิตระยะสั้นมีข้อดีคือเบี้ยประกันที่ถูก แถมยังมีทุนประกันที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับประกันชีวิตประเภทอื่น

1.3 ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Saving Insurance)

เป็นประกันชีวิตที่จะมุ่งเน้นไปที่การออมเงิน ผู้เอาประกันจะได้รับการคุ้มครองชีวิตแบบประกันชีวิตประเภทอื่น ควบคู่ไปกับการสะสมทรัพย์ตลอดสัญญากรมธรรม์ โดยผู้เอาประกันจะทำการชำระค่าเบี้ยประกันเป็นงวด ๆ และสามารถเลือกรับเงินคืนแบบเป็นก้อนเดียวหลังจากสิ้นสุดสัญญาหรือรับเงินคืนระหว่างทางตลอดสัญญาก็ได้

1.4 ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน (Investment Linked Life Insurance)

เป็นประกันชีวิตรูปแบบใหม่ ที่เรียกอีกอย่างว่าประกันแบบยูนิตลิงก์ (Unit Linked) ซึ่งจะเป็นประกันที่ใหม่ความคุ้มครองชีวิต รวมถึงโอกาสในการลงทุนไปพร้อมกัน จุดเด่นของประกันชีวิตประเภทนี้คือผู้เอาประกันสามารถกำหนดระยะเวลาการคุ้มครอง การชำระเบี้ย รวมถึงปรับหรือลดทุนประกันชีวิตได้ตามความเหมาะสม

2.ประกันชีวิตแบบบำนาญ

ประกันชีวิตแบบบำนาญ

Cr.Freepik 

เป็นการทำประกันชีวิตระยะยาว ที่จะมุ่งเน้นไปที่การออมทรัพย์แบบเดียวกับประกันสะสมทรัพย์ โดยผู้เอาประกันจะต้องชำระค่างวดประกันตามที่ระบุในกรมธรรม์ให้ครบ จากนั้นบริษัทประกันจะให้ผลตอบแทนเป็นเงินบำนาญให้แก่ผู้เอาประกันเป็นงวด ๆ ในช่วงที่ผู้เอาประกันมีอายุระหว่าง 55 - 85 ปีขึ้นไป

ทั้งนี้ประกันชีวิตแบบบำนาญก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษี โดยสามารถนำไปลดหย่อนได้สูงสุด 15% ของเงินได้ ไม่เกิน 300,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.), เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, เงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และเงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท

 

เทคนิคเลือกซื้อประกันลดหย่อนภาษี

หลังจากที่รู้จักประเภทประกันลดหย่อนภาษีแล้ว อีกสิ่งที่ควรรู้คือเทคนิคการซื้อประกันเพื่อให้ได้ลดหย่อนภาษีคุ้มที่สุด ซึ่งมีวิธีการดังนี้

1. คำนวณภาษีที่ต้องจ่าย

การจะซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษีได้นั้น สิ่งแรกที่ควรรู้คือวิธีการคำนวณภาษีที่เราต้องจ่าย ซึ่งจะขึ้นอยู่กับรายได้สุทธิต่อปีหลังจากหักค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด โดยวิธีคำนวณภาษีที่ต้องจ่าย สามารถทำได้ดังนี้

  • รายได้ต่อปี - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อนภาษี = เงินได้สุทธิ
  • เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี = เงินภาษีที่ต้องจ่าย

2.เช็กรายการลดหย่อนภาษี

เมื่อทราบภาษีที่ต้องจ่ายแล้ว อีกสิ่งที่จำเป็นต้องรู้คือสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีแต่ละรายการ ว่าคุณสมบัติของเราสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีใดได้บ้างตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยให้จ่ายภาษีน้อยลง

3.เลือกประกันที่ตอบโจทย์

แม้ว่าการเลือกซื้อประกันชีวิตจะเป็นการลดความเสี่ยงจากสิ่งที่จะเกิดต่อชีวิต แต่การเลือกซื้อประกันชีวิตของแต่ละคนนั้นย่อมมีปัจจัยที่ต่างกันไปตามวัยและรูปแบบการใช้ชีวิต โดยการพิจารณาเลือกซื้อประกันชีวิตที่ตอบโจทย์มี 3 ปัจจัย ได้แก่

  • 1. ดูแลรักษาสุขภาพ
  • 2. ออมเงินเพื่อใช้วัยเกษียณ
  • 3. เป็นเงินไว้ให้คนข้างหลังใช้จ่าย

 

สรุป

จะเห็นได้ว่าการทำประกันชีวิตนอกจากจะช่วยคุ้มครองตัวเราและคนข้างหลังจากเหตุไม่คาดฝันแล้ว ยังสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายโดยการนำมาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันเพื่อสร้างความมั่นคงให้ชีวิตและสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ คานะขอแนะนำ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ 10/3 “TIPlife Smart Saving” ลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท** รับเงินคืนสูงถึงปีละ 3.9%* ซื้อวันนี้รับ Lotus’s Gift Card มูลค่า 500 บาท*

และคุ้มครองชีวิตยามแก่เฒ่าด้วย ประกันชีวิตแบบบำนาญ 90/2 “TIPlife Smart Pension” ลดหย่อนภาษีสูงสุด 300,000 บาท** รับเงินบำนาญสูงถึงปีละ 15%* ซื้อวันนี้รับบัตร Lotus’s Gift Card มูลค่า 1,000 บาท*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด