EP02 ถูกรถชนแล้วหนี ประกันให้ความคุ้มครองหรือไม่

27/01/2023 10:14 น.


 

       รถยนต์ ถือเป็นยานพาหนะทางบก ที่มีความจำเป็นต่อการใช้ในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อไรที่เราได้นำรถมาใช้ในทาง โอกาสในการอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเราไปชนเขา หรือเขามาชนเรา ถึงแม้ว่าเราจะใช้ความระมัดระวังดีอย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้ และเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว  หากคู่กรณีชนเราไม่หนีไปไหนหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ได้ลงมาพูดจาคุยกันและแจ้งบริษัทประกันมาตกลงค่าเสียหายกันก็ถือว่าโชคดีไป แต่หากเราโชคร้าย เจอคู่กรณีชนแล้วหลบหนีไป ไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราจะทำอย่างไรดี

     เราคงจะเคยเห็นข่าวเรื่องชนแล้วหนีอยู่บ่อยๆ ถ้าหาคู่กรณีไม่เจอ ผู้ประสบภัยคงเจ็บตัวฟรี หรือไม่โชคร้ายถึงขั้นตายฟรี   ถ้ารถเราไม่มีประกัน คงต้องช้ำใจ ความเสียหายรถยนต์ที่เกิดขึ้นก็คงต้องจัดซ่อมเอง  แต่ถ้าหากรถเรามีประกันภัยรถยนต์ไว้  ก็คงต้องดูด้วยว่ารถที่เราทำประกันภัยไว้นั้น ทำประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจประเภทอะไรไว้   ความเสียหายต่อตัวรถยนต์เราจะได้รับความคุ้มครองไว้หรือไม่   และในวันนี้ผมขอพูดถึงเรื่อง  “ถูกรถชนแล้วหนี  ประกันให้ความคุ้มครองหรือไม่?”

เรื่องรถชนแล้วหนี เป็นเรื่องที่มีความสำคัญทางกฎหมาย   เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เราขับรถชนคันอื่นแล้วหลบหนี จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เช่น กลัวว่าจะมีคนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต  เลยจำเป็นต้องขับรถหลบหนี  หรือในขณะขับขี่เราดื่มแอลกอฮอล์จึงไม่กล้าจะหยุดรถให้การช่วยเหลือ กลัวถูกดำเนินคดีข้อหาดื่มแอลกอออล์ในขณะขับขี่รถยนต์ หรือบางครั้งเราอาจจะเกิดจากความกลัว ไม่เกล้าอยู่ในที่เกิดเหตุ กลัวถูกทำร้าย แต่เมื่อขับรถชนแล้วหลบหนี ไม่หยุดให้ความช่วยเหลือจะมีความผิด ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 78 กำหนดไว้ว่า “ผู้ใดขับรถหรือขี่หรือควบคุมสัตว์ในทาง ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นความผิดของผู้ขับขี่หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์หรือไม่ก็ตาม ต้องหยุดรถ หรือสัตว์ และให้ความช่วยเหลือตามสมควร และพร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที กับต้องแจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล และที่อยู่ของตนและหมายเลขทะเบียนรถแก่ผู้ได้รับความเสียหายด้วย

ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์หลบหนีไปหรือไม่แสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สถานที่เกิดเหตุ ให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้กระทำความผิดและให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจยึดรถคันที่ผู้ขับขี่หลบหนีหรือไม่แสดงตนว่าเป็นผู้ขับขี่ จนกว่าคดีถึงที่สุดหรือได้ตัวผู้ขับขี่ ถ้าเจ้าของหรือผู้ครอบครองไม่แสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในหกเดือนนับแต่วันเกิดเหตุ ให้ถือว่ารถนั้นเป็นทรัพย์สิน ซึ่งได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือเกี่ยวกับการกระทำความผิด และให้ตกเป็นของรัฐ”

ในกรณีผู้ขับขี่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินไม่ได้หยุดรถให้ความช่วยเหลือ หรือแสดงตนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จะมีความผิด ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 160 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 78 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าไม่ปฏิบัติตามมาตรา 78 เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสหรือตาย ผู้ไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้น มุ่งหมายให้ผู้ที่ขับขี่รถ เมื่อประสบอุบัติเหตุ ควรอยู่ในสถานที่เกิดเหตุและให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันหรือบรรเทาความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ประสบภัยจนถึงแก่ชีวิต ส่วนใครจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด อย่างไรนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง   

แต่ถ้าขับขี่รถชนแล้วหลบหนี กฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นเป็นฝ่ายผิด และมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก ดังนั้น เมื่อประสบอุบัติเหตุควรหยุดรถให้ความช่วยเหลือ และแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจในทันทีครับ

ดังนั้นแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นฝ่ายประมาทก็ตาม ซึ่งโทษที่จะได้รับในกรณีที่ขับรถชนแล้วหนีนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพความบาดเจ็บของผู้ประสบเหตุ อีกทั้ง กฎหมายยังให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ที่ขับรถชนแล้วหนีเป็นฝ่ายผิด และอาจจะถูกยึดรถไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดด้วยครับ

เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น รถชนแล้วหนี เป็นเรื่องที่เราเห็นตามข่าวในบ้านเราอยู่เป็นประจำ จิตสำนึกของความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น น้อยมากที่จะมีคนรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้กระทำความผิดเกรงกลัวต่อกฎหมาย ที่สำคัญกลัวจะต้องรับผิดต่อค่าเสียหายที่เกิดขึ้น หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และ เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้วจริงๆ เคยทราบไหมครับว่าเราต้องทำอย่างไรบ้าง? หากเราไม่ทราบรายละเอียดรถคู่กรณี หรือหากเราได้ประกันภัยรถยนต์ไว้บริษัทประกันภัยจะให้ความคุ้มครองหรือไหม? เป็นเรื่องที่หลายคนมีข้อสงสัย ว่าบริษัทประกันภัยจะให้ความคุ้มครองหรือไม่

สำหรับรถยนต์ที่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 1 ไว้ หลายท่านคงอุ่นใจ เพราะถึงอย่างไรบริษัทประกันภัย ก็คงต้องรับผิดชอบในความเสียหายรถยนต์คันเอาประกันภัยที่เกิดขึ้น แต่ถึงแม้จะทำประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ ประเภท 1 ก็ตาม แต่ถ้าเราไม่สามารถแจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นเราก็ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายส่วนแรก ( Excess ) 1,000 บาทแรกของความเสียหายที่เกิดขึ้นครับ แต่ประเด็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหากเราไม่สามารถทราบรายละเอียดทะเบียนรถคู่กรณี แต่มีหลักฐาน CCTV สถานที่เกิดเหตุ ยืนยันได้ว่ามีรถคู่กรณีมาเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี ความเสียหายที่เกิดขึ้น เราก็ไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายส่วนแรก ( Excess )  1,000  บาท เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเรามิได้เป็นฝ่ายผิด หรือฝ่ายประมาท สามารถแจ้งรายละเอียดคู่กรณีให้บริษัทประกันภัยทราบได้ ตามหลักฐาน CCTV  แม้ไม่มีรายละเอียดทะเบียนรถคู่กรณีก็ตาม เพราะหน้าที่การติดตามคู่กรณี เป็นหน้าที่ของบริษัทประกันภัย ในการติดตามทางฝ่ายคู่กรณีจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ

และในเรื่องของรถชนแล้วหลบหนี ก็มีประเด็นของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น หากมีผู้ประสบภัยได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย  หรืออานามัย  เพราะถูกรถชนแล้วหลบหนี เช่น คนเดินข้ามถนน ถูกรถชนแล้วหนี สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานใดได้บ้าง  

           สำหรับผู้ประสบภัยถูกรถชนแล้วหนี ไม่ทราบว่ารถคันใดก่อให้เกิดความเสียหาย (กรณีรถชนแล้วหนี  รถในที่นี้ หมายถึง ยานพาหนะทุกชนิด ที่ใช้ในการขนส่งทางบก ซึ่งเดินด้วยกำลังเครื่องยนต์ กำลังไฟฟ้า หรือพลังงานอื่น และหมายความรวมตลอดถึงรถพ่วงของรถนั้นด้วย เว้นแต่รถไฟ)  ผู้ประสบภัยหรือทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยสามารถร้องขอค่าเสียหายเบื้องต้นได้จากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วน 1186  และหากค่าเสียหายเบื้องต้นไม่เพียงพอ ผู้ประสบภัยหรือทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัย สามารถร้องขอได้ที่ กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับผู้เสียหายในทางคดีอาญา สามารถ ติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วน 1111 ต่อ 77 เช่นกันครับ
            ดังนั้นจึงอยากให้ทุกท่านที่ขับขี่รถ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ก็ไม่ควรจะหลบหนี เพราะแม้เรามิได้เป็นฝ่ายผิดหรือประมาท ก็อาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้ครับ

พบกับบทความที่มีประโยชน์และสาระความรู้เรื่องของประกันได้ในรายการ เคลมได้ป่ะ!? ที่ช่อง YouTube ของ กรุงศรี ออโต้ นะครับhttps://www.youtube.com/watch?v=mNFbeuGIb4s&list=PLoHwRneB14sgdtabcCV54FeBSmW0T-BHD