
ใบขับขี่ดิจิทัลใหม่ เริ่มใช้ 20 ก.ย.นี้ ไม่มียึดใบขับขี่อีกต่อไป
21/12/2022 14:46 น.
สรุปให้อ่านง่าย
- พรบ.จราจรทางบกเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา ได้ประกาศว่าคุณตำรวจจราจรจะไม่สามารถยึดใบขับขี่ได้อีกต่อไป มีผลบังคับใช้งานวันที่ 20 ก.ย. 2562 นี้
- ส่วนใบขับขี่ที่เราสามารถใช้ได้นั้นมีทางเลือกมากขึ้นเป็น 3 แบบ คือ ใบขับขี่เดิม, ใบขับขี่ดิจิทัล (DLT QR LICENCE) และสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับขี่ตามแบบฟอร์มที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด (ซึ่งต้องรอข้อสรุปจากกรมการขนส่งอีกที)
- ขั้นตอนการใช้งาน DLT QR LICENCE นั้นเป็น Application ที่เราแค่ download Appplication ลงมาที่เครื่องมือถือ แล้วทะเบียนด้วยเลขบัตรประชาชน สแกน QR code ด้านหลังของใบขับขี่ของเราเอง ก็สามารถใช้งาน Application โดยไม่ต้องพกใบขับขี่พลาสติกได้เลย
- นอกจากเรื่องการไม่ยึดใบขับขี่อีกต่อไปแล้ว เราควรรู้เรื่องการตัดคะแนนที่จะเป็นบทลงโทษแบบใหม่ที่ส่งผลถึงขั้นต้องไปสอบใบขับขี่ใหม่หรือโดนเพิกถอนใบขับขี่ทันทีด้วย
จากข่าวช่วงวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมาเรื่อง พ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับที่ 12 ที่ประกาศล่าสุดว่า ประชาชนสามารถพกสำเนารูปถ่ายใบขับขี่ดิจิทัลแทนการพกใบขับขี่แบบเดิมติดตัวได้นั้น ทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า ตกลงแล้วยังต้องพกใบขับขี่แบบเดิมอยู่ไหม หรือรูปที่เราถ่ายใบขับขี่ด้วยโทรศัพท์มือถือเองไว้ในมือถือใช้ได้รึเปล่า หลังจากอ่านจบแล้ว เพื่อนๆ จะตอบได้ว่ารูปถ่ายแบบไหนที่ใช้ได้ และเจ้า Application ใบขับขี่ที่ว่านี้มันช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นอย่างไร
ทำไมใบขับขี่ดิจิทัลถึงน่าสนใจ
1. ไม่ต้องพกใบขับขี่แบบเก่าอีกต่อไป (ซึ่งก็สบายใจได้ว่าใบขับขี่ของเราจะไม่มีวันโดนยึดแน่ๆ) แค่โชว์ใบขับขี่ดิจิทัลใน DLT QR Application แทนเมื่อคุณตำรวจร้องขอ ส่วนจะโดนตัดแต้มไหม...ก็ว่ากันอีกที
2. เชื่อมต่อข้อมูลการขับขี่ของเรากับบัตรประจำตัวประชาชนของเราเลย ซึ่งก็มองได้ 2 ด้านคือ
2.1 ข้อมูลของเราจะครบในที่เดียว สะดวกในการค้นหาข้อมูลเป็นประโยชน์อย่างมากในกรณีที่เราต้องการความช่วยเหลือแบบเร่งด่วนและยังสามารถเปิด Application ได้ เช่น ข้อมูลการแพ้ยา โรคประจำตัว และกรุ๊ปเลือด
2.2 ด้วยความที่สามารถตรวจสอบข้อมูลของเราทั้งหมดได้จากเลขบัตรประชาชน เรื่องของ Data Privacy จึงเป็นสิ่งที่เราต้องเข้าใจว่าข้อมูลของเราจะถูกเก็บรัษาเป็นอย่างดี เช่น ข้อมูลเงินได้ที่เราใช้ในการเสียภาษีให้สรรพกรทุกปี
3. มีข้อมูลอัพเดทจากกรมการขนส่งทางบกที่เราควรรู้ ไม่ว่าจะเป็น
- การแชร์เส้นทางการเดินทางที่เราสามารถแชร์ให้เพื่อนๆ ร่วมทริปเราได้เลยด้วยการกรอกหมายเลขทะเบียนรถและปลายทางที่เราต้องการเดินทาง รวมถึงการติดตามการเดินทางของคนที่บ้านเพื่อความสบายใจ
- สามารถขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ในปุ่มเเดียวจาก Application
- ข่าวสารและประกาศล่าสุดจากกรมการขนส่งทางบกเกี่ยวกับระเบียบต่างๆ และกฏหมายล่าสุด เช่น การประกาศใช้ใบขับขี่ดิจิทัลนี้ หรือกฏหมายใหม่ในของรถป้ายแดงที่ต้องจดทะเบียนป้ายขาวให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน ใครฝ่าฝืนมีโทษปรับ 10,000 บาทส่วนการปลอมแปลงป้ายแดงนั้นเป็นคดีอาญามีโทษจำคุกได้เลย
ขั้นตอนการดาวน์โหลดใบขับขี่ดิจิทัล DLT QR LICENCE Application
ขั้นตอนการดาวน์โหลดนั้นง่ายมาก เริ่มจาก
-
สามารถเข้าไปค้นหา Application ได้เลยที่ Play Store ในมือถือระบบปฏิการแอนดรอยด้วยการค้นหา “DLT QR LICENCE”
-
จากนั้นให้ดาวน์โหลด Application ลงในมือถือตามปกติ
-
เมื่อเราเปิด Application ขึ้นมา ให้ลงทะเบียนเพื่อการเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่นครั้งแรก ด้วยการกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักและสแกน QR Code ด้านหลังใบขับขี่(มีอยู่ในขับขับขี่รุ่นใหม่ ถ้าใครไม่มี QR Code ที่ว่านี้ให้เราติดต่อกรมการขนส่งทางบก) กรอกอีเมล์เพื่อรับรหัส OTP (One Time Password) เพื่อทำการเชื่อมต่อข้อมูล
-
ยืนยันตัวตนเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลด้วยระบบ OTP ที่ได้รับ จากนั้นให้ตั้งรหัสเข้าใช้งาน Application ใหม่เพื่อความสะดวกในการใช้งานครั้งต่อไป
-
กรอกข้อมูลส่วนตัวของเราลงใน Application ได้เลยเพื่อความครบถ้วนของข้อมูลในการใช้งานครั้งต่อไป
หลักเกณฑ์การตัดคะแนนเมื่อทำผิดกฎจราจร
นอกจากการใช้งานใบขับขี่ดิจิทัลแล้วเราควรต้องรู้ “ระบบการตัดคะแนนใบขับขี่” เมื่อเราทำผิดกฎจราจรด้วย ซึ่งประกอบไปด้วย คะแนนทั้งหมดที่เรามีคือ 12 คะแนนและความผิดทั้ง 3 ระดับที่เราจะถูกตัดคะแนนซึ่งประกอบไปด้วย
ทุกคนจะมีการกำหนดคะแนนเริ่มต้นที่ 12 คะแนน
ซึ่งถ้าเราโดยตัดคะแนนจนหมดแล้ว จะถูกพักใช้ใบขับขี่ 90 วัน หลังจากนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเข้าอบรมเพื่อสอบใบขับขี่ใหม่จนเมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะได้คะแนน 12 คะแนนกลับคืนมา
หากใน 3 ปีเราโดนพักใช้ใบขับขี่ (พัก 90 วัน) เกินกว่า 2 ครั้ง ในครั้งที่ 3 เราจะโดนพักการใช้งานใบขับขี่นาน 1 ปี
หากใน 1 ปีนั้นยังทำผิดกฏจราจรอีก (ครั้งที่ 4) จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที
ความผิด 3 ระดับที่ใช้ในการตัดแต้มใบขับขี่
การทำความผิดตามกฏหมายจราจร แบ่งตามความผิดต่อตนเองและสาธารณะ คือ
ความผิดระดับที่ 1 ความกระทบผิดต่อตนเองและสาธารณะเล็กน้อย เช่น ไม่สวมหมวกกันน๊อก, ไม่คาดเช็มขัดนิรภัย, ใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถ และขับรถเร็ว โดนตัด 1 คะแนน
ความผิดระดับที่ 2 ความกระทบผิดต่อสาธารณะปานกลาง เช่น ขับรถฝ่าไฟแดง และขับรถย้อนศร โดนตัด 2 คะแนน
ความผิดระดับที่ 3 ความกระทบผิดต่อสาธารณะรุนแรง เช่น ไม่หลีกทางให้รถฉุกเฉิน, เมาแล้วขับ, เสพยาเสพติดขณะขับรถ และชนแล้วหนี โดนตัด 3 คะแนน
ช่องทางการจ่ายค่าปรับ
เราสามารถจ่ายค่าปรับเพื่อทราบผลการตัดคะแนนได้ 4 วิธี คือ
- จ่ายค่าปรับได้ที่ไปรษณีย์ด้วยการส่งธนาณัติไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
- ทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
- ตัดบัตรเครดิต
- ชำระค่าปรับผ่านธนาคาร หรือหน่วยบริการชำระเงิน
ซึ่งวิธีที่ 2-4 เราจะรีบอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อได้รับข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก
ใครดูแลการบันทึกคะแนนและการตัดคะแนน
คุณตำรวจหรือเจ้าพนักงานจราจรจะดูแล “การบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ” ของเราทุกคนซึ่งเริ่มจากการกำหนดคะแนนของทุกคนที่ 12 คะแนนเป็นค่าเริ่มต้น และการตัดคะแนนคนที่ทำผิดกฏหมายจราจรตามความผิด 3 ระดับ ซึ่งถ้าเราเหลือคะแนนไม่เกิน 4 คะแนนหรือโดนตัดจนคะแนนหมด (ซึ่งเราจะรู้เมื่อมีการชำระค่าปรับแล้วตามช่องทางด้านบน) เราต้องเข้าอบรมเพื่อสอบใบขับขี่ใหม่ให้ผ่านเพื่อทำการคืนคะแนน
ถ้าเราโดนตัดคะแนนจนหมดแล้วทั้ง 12 คะแนนจะเกิดอะไรขึ้น
เราจะโดนพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 90 วัน เมื่อเราโดนตัดแต้มในแต่ละความผิดที่เกิดขึ้นจะต้องไปจ่ายค่าปรับตามช่องทางการจ่ายค่าปรับก่อนถึงจะรู้ว่าโดนตัดไปกี่คะแนน เมื่อโดนตัดคะแนนจนหมดเกลี้ยงแล้วไม่ต้องกังวลใจไป จะมีจดหมายลงทะเบียนส่งไปที่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านแจ้งให้เราทราบว่า เราถูกพักกมารใช้งานใบขับขี่ 90 วันอยู่นะจ๊ะ ให้เราไปเข้าอบรมเพื่อสอบใบขับขี่ใหม่ให้ผ่านแล้วเราจะได้คะแนนคืนกลับมา 12 คะแนนตามเดิมจ้าตามคำขวัญ “จับเพราะรัก” ที่เราจำได้อย่าขึ้นใจนั่นเอง
แล้วกรณีรถเช่าหรือชาวต่างชาติล่ะโดนตัดคะแนนอย่างไร
ในกรณีที่เป็นรถเช่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเแจ้งหลักฐานส่งไปตามชื่อ ที่อยู่ที่ลงทะเบียนไว้ใน 30 วัน ซึ่งถ้าไม่มีการดำเนินการหรือไม่แจ้งนิติบุคคลจะโดยโทษปรับ 5 เท่าของโทษปรับสูงสุด
ส่วนคนต่างชาติเมื่อเกิดการทำผิดกฏจราจรขึ้น จะมีการแจ้งผ่านไปรษณีย์ลงทะเบียนหรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามสมควร เพื่อให้ชำระค่าปรับตามกฏหมาย
อ้างอิงจาก
http://www.ratchakitcha.soc.go.th
https://play.google.com