มาดูกันว่าประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี แบบไหนได้บ้าง

18/11/2022 14:18 น.

นอกจากการออมเงิน การเล่นหุ้นแล้ว การทำประกันชีวิต ก็เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ได้รับความนิยมในสมัยนี้ เพราะนอกจากจะเป็นการลงทุนกับความไม่แน่นอนจากสุขภาพร่างกายของตัวเราแล้ว ยังเป็นการสร้างความมั่นคงมั่งคั่งให้กับตนเอง และครอบครัว ในยามที่บาดเจ็บ หรือแก่ชราอีกด้วย แต่นอกจากการสร้างความมั่นคงมั่งคั่งในชีวิตแล้ว ประกันชีวิตก็ยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีตามกฎหมายได้อีกด้วย ในวันนี้ คานะ จะพาทุกคนมาทำความรู้ ทำความเข้าใจ ว่าประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี แบบไหนได้บ้าง?

สาเหตุที่ประกันชีวิต สามารถลดหย่อนภาษีได้


ที่มาของรูป:

https://www.freepik.com/free-photo/happy-asian-young-family-homeowners-bought-new-house-japanese-mom-dad-daughter-embracing-looking-forward-future-new-home-after-moving-relocation-sitting-sofa-with-boxes-together_6142477.htm#query=insurance&position=6&from_view=search&track=sph

เหตุผลที่ประกันชีวิต สามารถลดหย่อนภาษีได้ เพราะว่าการทำประกันถือว่าเป็นการสร้างความมั่นคงประเภทหนึ่ง เช่นเดียวกับการออมเงิน สามารถมอบผลตอบแทนต่อความเสียหาย หรือเงินชดเชยยามเจ็บป่วย หรือแก่ชรา ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงมอบสิทธิพิเศษให้กับคนที่ทำประกันชีวิตด้วยการใช้ลดหย่อนภาษี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และเพิ่มแรงจูงใจให้คนสนใจมาทำประกันชีวิตมากขึ้น

ประกันชีวิตแบบไหนบ้างที่ลดหย่อนภาษีได้

แม้ว่าทางภาครัฐจะมีนโยบายลดหย่อนภาษีให้กับคนที่ทำประกันชีวิต แต่กระนั้นก็ไม่ได้ครอบคลุมกับประกันทุกประเภท โดยทางกรมสรรพากรได้ระบุสิทธิในการลดหย่อนภาษีสำหรับประกันชีวิตที่คุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป สำหรับประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี หลักๆ จะมี 2 ประเภท ได้แก่ ประกันชีวิตแบบทั่วไป และประกันชีวิตแบบบำนาญ

ประกันชีวิตแบบทั่วไป


ที่มาของรูป:
ttps://www.freepik.com/free-photo/elderly-patients-injury-woman-patient-s-bed-hospital-holding-us-dollar-bills-feel-happy-from-getting-insurance-money-from-insurance-companies_7810045.htm#query=insurance&position=1&from_view=search&track=sph

ประกันชีวิต เป็นการทำสัญญาระหว่างผู้เอาประกัน และบริษัทประกัน เพื่อทำสัญญาการคุ้มครองดูแลแความเสี่ยงต่างๆ ที่ส่งผลต่อร่างกาย และชีวิตของผู้เอาประกัน โดยมีการให้เงินตอบแทนแก่ตัวผู้เอาประกัน และครอบครัว ซึ่งการทำประกันชีวิต ก็มีการแบ่งเป็นแต่ละประเภท ที่ให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนี้

1.ประกันชีวิตแบบระยะสั้น (Term Insurance)

ประกันที่ให้ความคุ้มครองเป็นชั่วระยะเวลาหนึ่ง โดยจะแบ่งเป็นระยะเวลาตั้งแต่ 1 ปี, 3 ปี, 5 ปี และ 10 ปี ประกันจะทำหน้าที่คุ้มครองในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิตเป็นหลัก หากหลังจากที่ประกันหมดสัญญาแล้วผู้เอาประกันภัยยังมีชีวิตอยู่ กรมธรรม์สัญญาที่ทำไว้กับบริษัทประกันก็ถือเป็นสิ้นสุด โดยที่ผู้เอาประกันจะไม่ได้รับเงินคืนแต่อย่างใด ดังนั้นประกันชีวิตแบบระยะสั้นจึงเหมาะกับคนที่ต้องการจ่ายเบี้ยประกันราคาที่ไม่แพงมาก และต้องการการคุ้มครองระยะสั้น

2.ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)

ประกันชีวิตแบบระยะยาวที่จะให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันไปจนถึงอายุสูงสุดที่ 99 ปี โดยจะขึ้นอยู่กับการทำสัญญาว่าผู้เอาประกันจะเลือกถึงอายุเท่าไหร่ หากผู้เอาประกันยังมีชีวิตจนครบสัญญา บริษัทประกันจะทำการจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุให้กับผู้เอาประกัน หรือหากผู้เอาประกันเสียชีวิต บริษัทก็จะทำการจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์

3.ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Saving Insurance)

เป็นประกันที่มาในรูปแบบของการออมเงิน ที่มาพร้อมผลตอบแทนที่ชวนดึงดูดใจ โดยเฉพาะใครที่ต้องการได้รับสิทธิประโยชน์จากประกันที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ก็จะยังทำหน้าที่ในการคุ้มครองชีวิตของผู้เอาประกัน เหมือนประกันชีวิตแบบอื่นๆ ซึ่งผู้เอาประกันจะได้รับเงินจากบริษัทประกัน จากกรณีที่เสียชีวิต หรือเมื่อครบกำหนดสัญญา

สำหรับประกันชีวิตแบบทั่วไป กรมสรรพากร ได้มีการกำหนดให้สามารถนำเบี้ยประกันมาทำการลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงสูงสุด 100,000 บาท

ประกันชีวิตแบบบำนาญ


ที่มาของรูป:
https://www.freepik.com/free-photo/elderly-patients-injury-woman-patient-s-bed-hospital-holding-us-dollar-bills-feel-happy-from-getting-insurance-money-from-insurance-companies_7810044.htm#page=2&query=insurance&position=3&from_view=search&track=sph

เป็นประกันชีวิตในรูปแบบของเงินบำนาญ ที่จะให้ผลตอบแทนเป็นเงินได้ประจำ เหมาะกับคนที่มองหาประกันที่จะให้เงินช่วยเหลือในยามที่แก่ชรา มีการจ่ายค่าเบี้ยประกันให้กับบริษัทประกัน เหมือนเป็นการเก็บเงินสำหรับใช้ยามเกษียณ จากนั้นบริษัทประกันจะทำการจ่ายเงินในรูปแบบบำนาญ ให้แก่ผู้เอาประกันเป็นงวดๆ ในช่วงที่ผู้เอาประกันมีอายุตั้งแต่ 55 - 85 ปีเป็นต้นไป

ประกันชีวิตแบบบำนาญเหมาะสำหรับใคร

1. คนที่ต้องการสร้างเงินเก็บ เพื่อวางแผนการเงินไว้ใช้ในช่วงหลังเกษียณ เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเงินสำหรับใช้จ่ายในยามที่ไม่มีเงินเดือนจากการทำงานแล้ว

2. คนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนในการเกษียณ รูปแบบอื่นๆ เพราะประกันชีวิตจะให้ผลตอบแทนที่มั่นคง แน่นอน

3. คนที่ต้องการได้สิทธิประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี

สำหรับเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญนั้น จะสามารถลดหย่อนภาษีได้มากกว่ากรณีประกันชีวิตในรูปแบบปกติ โดยสามารถลดหย่อนจากจำนวนที่จ่ายจริงได้สูงสุดถึง 300,000 บาท แต่ต้องไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน

ใครที่กำลังมองหาประกันบำนาญ ลดหย่อนภาษี คานะขอแนะนำ ประกันชีวิตแบบบำนาญของ บมจ.ทิพยประกันชีวิต “TIPlife Smart Pension 90/2” ที่สมัครง่าย สะดวก รวดเร็วกับ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ที่ชำระเพียง 2 ปี รับเงินบำนาญสูงถึงปีละ 15% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สามารถลดหย่อนภาษีสูงสุด 300,000 บาท (ตามหลักเกณฑ์ที่สรรพากรกำหนด)

หมายเหตุ: ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัยก่อนตัดสินใจทำประกันภัย